ครม.เศรษฐกิจ คลอด 4 มาตรการใหญ่ ฟื้นฟู-เยียวยาน้ำท่วม

Date:

วันที่ 1 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงผลประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบการออกมาตรการฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม 4 มาตรการใหญ่ โดยจะเสนอให้กับที่ประชุมครม.พิจารณาในวันที่ 2 ธ.ค. เห็นชอบ ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจและทรัพย์สินเป็นวงกว้างโดยกระทบกับประชาชนมากกว่า 2.9 ล้านคน และส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจในพื้นที่กว่า 5 แสนล้านบาท

นายเอกนิติ กล่าวว่า สำหรับมาตรการฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม ทั้ง 4 มาตรการใหญ่ รัฐบาลเตรียมดึงเงินจากมาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาใช้ในการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ทั้งประชาชน และภาคธุรกิจ โดยการนำเสนอต่อครม.วันพรุ่งนี้จะแยกออกเป็นกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม นั่นคือ มาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี สรุปได้ดังนี้

1.การลดภาระหนี้ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจดำเนินมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะยกเว้นการคิดดอกเบี้ยในช่วงเวลาการพักชำระหนี้ (คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี) รายละไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะผ่อนเกณฑ์ไม่เป็นหนี้เสีย หรือ NPL ด้วย ขณะเดียวกันยังมีการให้สินเชื่อเพื่อเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เป็นสินเชื่อเพิ่มเติมภายใต้วงเงินกู้เดิมกับธนาคาร (ลูกหนี้เดิม) รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก และการให้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก นอกจากนี้ธปท.และสมาคมธนาคารไทยยังจะผ่อนเกณฑ์ในการปล่อยสินค้า เพื่อชวยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี รวมทั้งหารปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันให้ภาคธุรกิจด้วย

2.การเก็บเงินไว้ในกระเป๋า โดยนายกฯกำชับเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามเกณฑ์ครัวเรือนละไม่เกิน 9,000 บาท กระทรวงมหาดไทย จะเสนอที่ประชุมครม. วันพรุ่งนี้ เพื่อของบกลาง และจะเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้ขยายเงินทดลองให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำมาใช้จ่ายต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น จังหวัดละ 100 ล้านบาท พร้อมผ่อนเกณฑ์ในการเบิกจ่ายให้สามารถใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อมาช่วยประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่

ด้านการประกันภัย สำหรับประชาชนที่ทรัพย์สินเสียหาย บริษัทประกันจะเร่งจ่ายค่าชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนร้านค้าต่าง ๆ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน 30,000 บาท ส่วนรถยนต์จะเร่งเคลมให้รวดเร็ว โดยสามารถถ่ายรูปรถยนต์ให้เห็นทะเบียนและระดับน้ำ เพื่อให้ประชาชนสามารถเคลมยนต์ได้ทันที

ส่วนกระทรวงแรงงาน ได้ขยายระยะเวลาเงินนำส่งประกันสังคมทั้งหมด ขณะที่ลูกจ้าง จะมีการจะจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในกรณีไม่สามารถทำงานได้ในอัตรา 50% ของค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 180 วัน และจัดสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ในกิจการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน กู้ได้ไม่เกินรายละ 15 ล้านบาท

3. การลดภาระค่าใช้จ่าย โดยจะขยายเวลาชำระภาษีและค่าธรรมเนียม จะประสานกับทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัย พร้อมลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับซ่อมแซมทรัพย์สินตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อซ่อมแซมรถยนต์ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการที่มีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สิน สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักได้ 2 เท่า นอกเหนือจากนั้นผู้ที่บริจาคช่วยผู้ประสบภัย และองค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

4. ด้านอื่น ๆ เช่น รัฐวิสาหกิจตรวจสอบความปลอดภัยตามที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างระบบท่อน้ำ ระบบไฟฟ้า รางรถไฟ เป็นต้น การอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด การจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตร โดยลงพื้นที่ให้คำปรึกษาและบริการต่าง ๆ ด้านการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการถึงในพื้นที่ การอำนวยความสะดวกในการยื่นงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เป็นต้น พร้อมทั้งได้มีการมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการทางการเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือที่สอดคล้องกับแนวทางการให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่อไป 

รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ถอดบทเรียนจากภัยพิบัติครั้งนี้ โดยขอให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ เป็นประธานในการถอดบทเรียนต่าง ๆ ทั้งการแก้ปัญหาในระยะสั้น และการเตรียมความพร้อมระยะยาว โดยกระทรวงต่างประเทศ จะขอความช่วยเหลือกับประเทศที่ได้มีปัญหาประสบอุทกภัย เช่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาวางระบบในการที่จะดูแล นอกจากนี้นายกฯ ยังได้มอบหมายกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังจากฟื้นฟูและให้หน่วยราชการต่าง ๆ จัดสัมมนาในจังหวัดที่ประสบภัยเพื่อให้กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป ส่วนมาตรการลดค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการต่อไป

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

แบงก์ชาติ ยุคใหม่ จับมือคลัง ลุยฟื้นเศรษฐกิจ

แบงก์ชาติ ยุคใหม่ จับมือคลัง ลุยฟื้นเศรษฐกิจ ไม่มีคำว่าหอคอยงาช้าง ทำทุกอย่างประชาชนต้องได้ประโยชน์

นายกฯ อนุทิน ชี้ยุบสภาฯ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นายกฯ อนุทิน ชี้ยุบสภาฯ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จำเป็นก็ไม่มีทางเลือก มั่นใจทำทุกอย่างถูกทาง  ช่วยคนไม่ได้หวังคะแนน

การบินไทย เพิ่มน้ำหนักสัมภาระเช็คอิน 10 กิโลกรัม ในเส้นทางสู่หาดใหญ่

การบินไทย เพิ่มมาตรการช่วยเหลือ เพิ่มน้ำหนักสัมภาระเช็คอินเพิ่มพิเศษ 10 กิโลกรัม ในเส้นทางสู่หาดใหญ่

‘ในหลวง’ พระราชทานเงิน ช่วยผู้เสียชีวิตน้ำท่วมหาดใหญ่ รายละ 2 หมื่นบาท

นายกฯ เผย ‘ในหลวง’ พระราชทานเงินส่วนพระองค์ ช่วยผู้เสียชีวิตน้ำท่วมหาดใหญ่ รายละ 2 หมื่นบาท