
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่วัดห้วยปอ จังหวัดบุรีรัมย์ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ทหารกล้าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธี
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี นายอนุทิน กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัว โดยระบุว่า “ขอชื่นชมในความกล้าหาญ ของทหารไทยที่ยอมสละชีพ เพื่อแลกกับอธิปไตยของประเทศ ให้คงอยู่ไปถึงลูกหลาน แน่นอนว่าทุกการเสียสละจะไม่สูญเปล่า รัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
จากนั้นเวลา 17.00น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง ไทย – กัมพูชา

ภายหลังพิธีฯ นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า คนไทยทั้งประเทศส่งกำลังใจมาให้กับครอบครัวทหารที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ซึ่งทางรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัดอย่างกองทัพบกจะคอยดูแล และขอฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอให้ติดตาม เพราะหากวางแผนไม่ดีก็อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเงินเยียวยา ซึ่งมีเพียงพอที่ครอบครัวนี้จะดำรงชีวิตได้อย่างสะดวกสบายถ้าวางแผนเป็น และขอมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดคนมาช่วยกำกับดูแลและให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้เสียชีวิตไม่มีความกังวลใดติดตัวไป รวมถึงครอบครัวที่สร้างวีรบุรุษให้กับประเทศก็สมควรที่จะได้รับการทดแทน ตอบแทนเยียวยาให้เขาได้มีความสุข หลังจากที่เขาต้องประสบต่อความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับมารดาของจ่าสำเริงยังมีความเป็นห่วงอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นึกสภาพคนเป็นพ่อแม่ต้องมาเผาลูก อย่ามาถามเลย มันอธิบายไม่ได้หรอก
เมื่อถามถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ใช้เวลาหารือไม่ถึง 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือกันในระดับเลขาและทีมงาน ซึ่งการประชุมแบบลงรายละเอียดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.เป็นต้นไป ยืนยันว่าประเทศไทยมีแนวทางที่ชัดเจนต้องปล่อยให้เขาได้ประชุมกันไปก่อน
เมื่อถามย้ำว่าการประชุมวันนี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันนี้ทุกคนแบกความกดดันพอสมควร มันจะออกมาด้วยรอยยิ้มทันทีก็คงไม่ถึงขนาดนั้น
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่าการประชุมอาจจะไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยของเรามีแนวทาง มีเงื่อนไข ตนยังยืนยันว่าประเทศไทยของเราเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีเราเป็นฝ่ายที่ถูกคุกคาม สิ่งที่เราทำไปเป็นการตอบโต้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตรงข้ามคิดคุกคามประเทศไทยเรา
เมื่อถามมีอะไรอยากจะบอกประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณในความเสียสละความร่วมมือของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนที่ยอมทิ้งบ้านมาอยู่ในศูนย์พักพิง ซึ่งทำให้เขามีความปลอดภัย ก็ขอให้มีความอดทนอีกสักนิด เชื่อมั่นว่ากองทัพไทย ทหารทุกคน จะนำสิ่งที่คนไทยต้องการจะเห็นมาให้พวกเราเร็วๆนี้




