StashAway เปิดตัว Flexible Portfolio ครั้งแรก

Date:

นายยศกร นิรันดร์วิชย กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ StashAway ประเทศไทย กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของนักลงทุนของเราเสมอ หลายคนอยากเพิ่ม-ลด หรือปรับสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ตที่มีอยู่ตามมุมมองของตนเอง เราจึงตั้งใจพัฒนาโซลูชันการลงทุนที่ตอบโจทย์นี้ออกมาเป็น Flexible Portfolio ซึ่งนักลงทุนแต่ละคนสามารถ Customise พอร์ตได้ตามความต้องการจากพอร์ตต้นแบบ หรือ จัด Asset Allocation ใหม่ในแบบของตัวเอง จากกว่า 35 สินทรัพย์ทั่วโลก โดยที่เราได้คัดสรร ETF คุณภาพดีในแต่ละประเภทสินทรัพย์มาไว้ให้แล้ว ที่สำคัญ นักลงทุนจะได้เห็นระดับความเสี่ยงของพอร์ตที่ออกแบบได้ทันที จากนั้นระบบจะรักษา Asset Allocation ตามที่กำหนดไว้ให้อัตโนมัติ

“StashAway อยากเป็นกำลังขับเคลื่อนให้คนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น ลดการลงทุนแบบกระจุกตัวในประเทศ ซึ่ง Flexible Portfolio จะมาตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการออกแบบพอร์ตลงทุนทั่วโลกในสไตล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและคุ้มค่า ที่สำคัญเรานำเทคโนโลยี Fractional Share มาใช้ จึงไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ”

สำหรับ ‘Flexible Portfolio’ ที่พัฒนาขึ้นโดย StashAway มาพร้อม 3 ฟีเจอร์หลักที่แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมและตอบโจทย์การลงทุนรูปแบบใหม่ ดังนี้

  • การออกแบบพอร์ต ETF ได้ตามสไตล์ตัวเอง นักลงทุนสามารถเลือก Customise หรือ Create พอร์ตจากสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 35 สินทรัพย์ อาทิ หุ้นญี่ปุ่น, หุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets), ทองคำ, REITs, พันธบัตรรัฐบาลภูมิภาคต่าง ๆ ไปจนถึงหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด, หุ้นกลุ่มบล็อกเชน, หุ้นกลุ่ม AI และ โรโบติกส์ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยเราได้คัดสรร ETF คุณภาพดีจากบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกอย่าง iShares by BlackRock, Vanguard, SPDR, VanEck, ARK, และ GlobalX เพื่อให้นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์หากองทุน ETF ที่ดีที่สุดด้วยตัวเอง
  • ระบบคำนวณระดับความเสี่ยงของพอร์ตเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนรับรู้และเข้าใจระดับความเสี่ยงที่แท้จริงของทุกพอร์ตที่มีกับเรา ซึ่งนักลงทุนจะสามารถเห็นได้ทันทีเมื่อสร้างหรือออกแบบพอร์ต เพราะที่ StashAway เราเชื่อว่านักลงทุนควรลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างแท้จริงเพื่อสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
  • ระบบ Rebalancing พอร์ตให้อัตโนมัติ เพื่อรักษา Asset Allocation ตามที่นักลงทุนกำหนดไว้ โดยระบบจะตรวจสอบในทุกๆ วัน หากสัดส่วนของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงเกินเกณฑ์ ระบบจะทำการซื้อ-ขายสินทรัพย์เพื่อคงสัดส่วนสินทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมซื้อ-ขายเพิ่มเติม

การเปิดตัว Flexible Portfolio ในครั้งนี้ StashAway ยังได้มอบสิทธิพิเศษให้กับนักลงทุนที่สนใจ Flexible Portfolio โดยจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 สำหรับทุกการฝากเงินลงทุนใน Flexible Portfolio

“StashAway ตั้งใจทำให้การลงทุนทั่วโลกเป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพสูงสุด และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะช่วยบริหารจัดการพอร์ตและจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบทุกโจทย์การลงทุนและสร้างการลงทุนในแบบที่ควรจะเป็น” นายยศกร กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ม หยุดการซื้อขายอัตโนมัติรายหลักทรัพย์

ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดใช้  Auto Pause รายหลักทรัพย์ 6 พ.ค. นี้ เพื่อยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์

STA เร่งเครื่องสู่ Net Zero 

STA เร่งเครื่องสู่ Net Zero ลงทุนขยายการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

GCAP GOLD ลุ้นทองแท่งทำสถิติใหม่ 55,300 บาท

GCAP GOLD ลุ้นทองแท่งทำสถิติใหม่ 55,300 บาท จับตา “ทรัมป์” ลังเลขึ้นภาษีจีน 

WHAUP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568

WHAUP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตราหุ้นละ 0.2525 บาทต่อหุ้น