บ้านคอนโดค้างขาย กว่า 8.6 แสนล้าน

Date:

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยพบความเคลื่อนไหวในด้านอุปทานโดยมีที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมดในตลาด หรือTotal Supply ณ ช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 199,949 หน่วย มูลค่า 976,823 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเพียงร้อยละ 0.02 ในขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.32 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จำนวน 28,334 หน่วย มูลค่ารวม 136,577 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 23,476 หน่วย มูลค่ารวม 116,488 ล้านบาท และมีหน่วยเหลือขาย จำนวน 176,473 หน่วย มูลค่ารวม 860,335 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในจำนวนหน่วยเสนอขายจำนวน 199,949 หน่วย มูลค่า 976,823 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 119,483 หน่วย มูลค่ารวม 624,876 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด จำนวน 80,466 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 351,947 ล้านบาท

เป็นที่น่าสังเกตว่าการเปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ พบว่า โครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่เกาะกลุ่มในระดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท จำนวน 5,045 หน่วย และระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท จำนวน 4,553 หน่วย ส่วนบ้านจัดสรรเกาะกลุ่มในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท จำนวน 4,196 หน่วย และระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท จำนวน 2,854 หน่วย

สำหรับสถานการณ์ด้านอุปสงค์ จากการสำรวจพบว่ายอดขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 2 มีจำนวน 23,476 หน่วย มูลค่า 116,488 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนและมูลค่าขายได้ใหม่ลดลงจากไตรมาสแรกของปี 2565 ที่มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 30,070 หน่วย มูลค่า 135,801 ล้านบาท โดยพบว่ามีโครงการอาคารชุดขายได้ใหม่ 13,491 หน่วย มูลค่า 51,152 ล้านบาท และเป็นโครงการบ้านจัดสรร 9,985 หน่วย มูลค่า 65,336 ล้านบาท

เมื่อแยกตามระดับราคาที่อยู่อาศัยพบว่ามีกลุ่มราคาที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่บางกลุ่มที่น่าจับตาและให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ คือกลุ่มดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท มีอัตราดูดซับลดลงอย่างมากโดยลดลงจากร้อยละ 13.6 ในไตรมาสแรก มาอยู่ที่ร้อยละ 8.3 ในไตรมาส 2 ปี 2565 และกลุ่มราคา > 20 ล้านบาท อัตราดูดซับลดลงจากร้อยละ 6.5 ในไตรมาสแรกมาอยู่ที่ร้อยละ 4.6 ในไตรมาส 2 ปี 2565 แสดงให้เห็นว่าการขายเริ่มมีทิศทางที่ชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่าในปี 2565 อุปทานด้านการเปิดขายโครงการใหม่จะมีจำนวน 83,608 หน่วย มูลค่า 386,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและมูลค่าร้อยละ 62.2 และ 76.6 ตามลำดับ จากปี 2564 ที่มีจำนวน51,531 หน่วย มูลค่า 218,948 ล้านบาท และคาดว่าจะมีหน่วยเหลือขายรวม 203,201 หน่วย มูลค่า 959,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วย และมูลค่า ร้อยละ 23.2 และร้อยละ 20.1 ตามลำดับ

ด้านอุปสงค์คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีหน่วยขายได้ใหม่ประมาณ 77,223 หน่วย จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.7 จากปี 2564 ที่มีจำนวน 61,914 หน่วย ส่วนมูลค่าจะมีจำนวน 346,388 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 จากปี 2564 ที่มีจำนวน298,381 ล้านบาท

ข้อมูลสำรวจที่แสดงการขยายตัวของการเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ และยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 ได้สะท้อนถึงการชะลอตัวลงของอุปสงค์ในตลาด โดยมีเหตุผลสำคัญมาจากการขาดความเชื่อมั่นในด้านรายได้ และต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากการปรับตัวของราคาน้ำมัน การปรับตัวขึ้น

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลาก N3 ผ่านตัวแทน

สำนักงานสลากฯ เริ่มจำหน่ายสลาก N3 ผ่านตัวแทนนำร่องกลุ่มผู้พิการ-โครงการสลาก 80 เริ่มงวด 16 มี.ค. นี้

เวียดนามเดินหน้า รถไฟเชื่อมจีน 460 กิโลเมตร

“พาณิชย์” เผยปี 68 เวียดนามเดินหน้า รถไฟเชื่อมจีน 460 กิโลเมตร แนะผู้ประกอบการไทยศึกษา ใช้ประโยชน์ส่งออกไปจีน

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ อายุ 2 ปี

ธอส. เปิดจำหน่าย “สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568” อายุสลาก 2 ปี ลุ้นรับเงินรางวัลใหญ่ ตลอด 24 งวด

LH Bank ผนึก LH Fund จัดสัมมนาใหญ่ 

LH Bank ผนึก LH Fund จัดสัมมนาใหญ่ เจาะลึกเศรษฐกิจการลงทุนไต้หวัน