ครม. ผ่านแผนการส่งเสริมเอสเอ็มอี ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 – 2570)

Date:

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ให้มีบทบาททางเศรษฐกิจในทุกระดับ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (20 ก.ย. 65) มีมติเห็นชอบแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของประเทศ และใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการและจัดทำงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริม SME อย่างบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย โดยตัวชี้วัด คือ สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของ SME ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั้งหมดไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ในปี 2570

ร่างแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 – 2570) กำหนดแนวทางการดำเนินงานไว้ 3 ประเด็นการส่งเสริมและ 15 กลยุทธ์ ดังนี้

ประเด็นส่งเสริมที่ 1) การสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม มีกลยุทธ์และแนวทางการขับเคลื่อน อาทิ การพัฒนาธุรกิจในระยะเริ่มต้นให้เริ่มธุรกิจได้อย่างมั่นคง ยกระดับธุรกิจให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลก ฟื้นฟูธุรกิจที่ประสบปัญหาให้ฟื้นตัว ช่วยเหลือธุรกิจที่ยังชีพให้สามารถอยู่รอด สนับสนุนผู้ประกอบการสูงอายุในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมการเกษตรสู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ

ประเด็นส่งเสริมที่ 2) สร้างการเติบโตแบบมุ่งเป้า ภายใต้กลยุทธ์และแนวทางกับการขับเคลื่อน ได้แก่ สร้างส่วนแบ่งตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้น ส่งเสริมการเข้าสู่สากล

ประเด็นส่งเสริมที่ 3 ) พัฒนาสภาพแวดล้อมให้สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์และแนวทางการขับเคลื่อน ได้แก่ สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างความพร้อมของบุคลากรและแรงงาน มีศูนย์กลางในการให้ข้อมูล องค์ความรู้และบริการ ปรับปรุง กฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย

“แผนการส่งเสริม SMEฯ ฉบับที่ 5 มีสาระที่เปลี่ยนแปลงจากแผนการส่งเสริม SMEฯ ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2560 – 2564 โดยเพิ่มเติมจำนวน 2 กลยุทธ์และแนวทาง คือ สนับสนุนผู้ประกอบการสูงอายุในการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมเกษตรกรสู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ” นายอนุชา กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เลขา คปภ. คาดธุรกิจประกันภัยปีนี้โต 5%

เลขา คปภ. คาดธุรกิจประกันภัยปีนี้โต 5% เดินหน้าแก้กฎหมายอำนวยความสะดวกการควบกิจการประกัน

ME CARE ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามินเม็ดฟู่ ประเทศเยอรมนี

ME CARE ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามินเม็ดฟู่ ประเทศเยอรมนี ร่วมสนับสนุน ภายในงาน Bangkok Post International Mini Marathon 2025 : Run For Nurses

ETDA เปิดผลศึกษา ‘แนวทางขับเคลื่อน AI ไทยสู่มาตรฐานโลก’

ETDA เปิดผลศึกษา ‘แนวทางขับเคลื่อน AI ไทยสู่มาตรฐานโลก’ ชู 11 นโยบายหลัก ตามกรอบยูเนสโก หนุนทุกภาคส่วนวางรากฐานจริยธรรม AI

“พิชัย” โยนรัฐบาลใหม่ตัดสินใจภาษีแวต 7%

“พิชัย” โยนรัฐบาลใหม่ตัดสินใจภาษีแวต 7% ที่จะครบกำหนดลดถึงสิ้นเดือน ก.ย. นี้ หลังจากนั้นจะเพิ่มเป็น 10%