กระแสรถยนต์เครื่องยนต์ไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle: BEV) เป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังปรากฏข่าวการจองรถยนต์ BEV ยี่ห้อหนึ่งที่คนเข้าคิวจองรถยาวข้ามคืน ปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความคึกคักในตลาดรถยนต์เป็นอย่างมาก มองไประยะข้างหน้า ยังมีหลายปัจจัยแวดล้อมที่ล้วนสนับสนุนการเข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดรถยนต์ BEV จากรถยนต์สันดาปภายใน ทำให้ Krungthai COMPASS คาดว่ารถยนต์ BEV ในปี 2565 จะมียอดขายที่ 12,500 คัน ขยายตัวจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ BEV ในปี 2564 ถึง 212.5% และยอดขายในปี 2566 จะขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ BEV จะอยู่ที่ 24,000 คัน หรือขยายตัว 92.0 %
3 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนรถยนต์ BEV ได้แก่ 1.การสนับสนุนจากภาครัฐที่ทำให้ราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น รวมทั้ง จูงใจผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนทำให้ทางเลือกในตลาดเพิ่มขึ้น 2.การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี ทำให้รถยนต์ BEV มันใช้งานได้จริง และ 3.ต้นทุนการใช้งานที่มีความคุ้มค่ากว่ารถยนต์สันดาปภายในถึงเกือบ 20%
อย่างไรก็ดี ยังมีหลายคำถามที่ยังเป็นข้อสงสัย และอาจกดดันการเติบโตของรถยนต์ BEV ทั้งราคาขายต่อที่มีความไม่แน่นอนสูง และราคาแบตเตอรี่ที่ยังมีราคาแพง เป็นต้น