นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า หลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยเริ่มเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญในการเดินทางเพื่อลดปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ และได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามนโยบาย 30@30 คือ ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 ทั้งนี้
ทั้งนี้ กฟผ. ที่ได้ร่วมพัฒนา Ecosystem ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยในหลาย ๆ ด้านมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้มีสถานีชาร์จภายในประเทศมากขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก ตลอดจนสร้างความมั่นใจในการเดินทางทั่วประเทศให้กับผู้ใช้รถ EV สำหรับ EV Charging Floor
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า EV Charging Floor ที่จัดตั้งขึ้นภายในพื้นที่ลานจอดรถของ กฟผ. เกิดจากความต้องการสนับสนุน และสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในการปรับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น โดยแปลงโฉมพื้นที่เดิมของลานจอดรถยนต์ ให้กลายเป็นลานชาร์จรถ EV ทั้งชั้น ซึ่งประกอบด้วยเครื่องชาร์จที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 66 หัวชาร์จ โดยเป็นหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 7.4 kW 110 ช่องจอด (รวมช่องจอดรอชาร์จ) สถานีชาร์จแห่งนี้ถือเป็นโมเดลต้นแบบ EV Charging Floor สำหรับอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย และพื้นที่จอดรถอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ และต้องการศึกษา พัฒนา ได้เข้ามาเรียนรู้ดูงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป
ในโอกาสเดียวกันนี้ กฟผ. ชวนค่ายรถยนต์ชั้นนำระดับโลกกว่า 11 ค่าย ได้แก่ Audi, BMW, BYD, GWM, Lexus, Mercedes Benz, MG, Mitsubishi, NETA, Nissan และ Toyota มาร่วมจัดแสดงพร้อมกัน เพื่อให้ความมั่นใจว่าสามารถรองรับการชาร์จรถ EV ได้ทุกค่ายรถ ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 104 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 150 สถานี ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ผู้ใช้รถ EV เดินทางทั่วประเทศได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น