ครม.เห็นชอบปรับเงื่อนไขภาษีรถยนต์ PHEV 

Date:

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงานแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีดังกล่าวเป็นการสนับสนุนและพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงขึ้นของรถยนต์ประเภท PHEV ให้สอดคล้องกับหลักสากลและเพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ประเภท PHEV ตามนโยบายของรัฐบาล

 ดร. เผ่าภูมิ ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ PHEV จะถูกจัดอยู่ในพิกัดอัตราภาษีเดียวกับ Hybrid Electric Vehicle (HEV) โดยอัตราภาษีจะพิจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป กรมสรรพสามิตได้กำหนดพิกัดอัตราภาษี PHEV และ HEV แยกจากกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1 รถยนต์ประเภท PHEV ที่มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และมีขนาดถังน้ำมันไม่เกิน 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 5 

2 รถยนต์ประเภท PHEV มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง หรือมีขนาดถังน้ำมันมากกว่า 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 10

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท PHEV โดยกำหนดอัตราภาษีจะพิจารณาจากระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า (Electric Range) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพียงเกณฑ์เดียวเท่านั้น เพื่อส่งเสริมมีการพัฒนารถยนต์ประเภท PHEV ที่จำหน่ายในประเทศไทยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีในการเพิ่มระยะวิ่งด้วยไฟฟ้า เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อย CO2  รวมทั้งตอบสนองต่อความต้องการใช้รถยนต์ PHEV ที่สามารถใช้การวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าในเขตตัวเมือง และใช้การวิ่งด้วยพลังงานผสมในการเดินทางระหว่างเมือง 

ดร. เผ่าภูมิ ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยการกำหนดระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ดังกล่าว  เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการพัฒนารถยนต์ PHEV  ตามหลักสากล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและต่อยอดให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ ประเภท PHEV ที่มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประเภทสันดาปภายใน ไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อีกทั้ง การปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยลดข้อกำหนดของขนาดถังน้ำมันในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดถังน้ำมันในรถยนต์ที่ผ่านการทดสอบแบบรุ่นที่ได้รับมาตรฐานในระดับสากลมาแล้วให้ลดลงจากเดิม  ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมต้องทำการทดสอบความปลอดภัยเฉพาะรุ่นที่ผลิตในประเทศไทยใหม่อีกด้วย

ดร. เผ่าภูมิ ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับปรุงพิกัดโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต ตอบสนองต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเพื่อวางรากฐานที่สำคัญให้แก่เศรษฐกิจไทยในระยะยาวตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

มูดี้ส์ หั่นมุมมองเครดิตไทยเป็น “เชิงลบ”

มูดี้ส์ หั่นมุมมองเครดิตไทยเป็นจากมี “เสถียรภาพ” เป็น “เชิงลบ” เหตุการคลังอ่อนแอ หนี้สูง หั่นจีดีพีไทยเหลือ 2%

ออมสิน ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO

ออมสิน ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2022 ระบบสารสนเทศการปฏิบัติงานตรวจสอบ

SME D Bank ดูแลเอสเอ็มอี หนุนร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”

SME D Bank ดูแลเอสเอ็มอีไทยใกล้ชิด หนุนร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อแก้ปัญหาหนี้กว่า 17,200  ราย

สำนักงานสลากฯ ออกรางวัลงวดวันที่ 2 พ.ค. 68 นอกสถานที่

สำนักงานสลากฯ ออกรางวัลงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นอกสถานที่ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์