นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เปิดเผยว่า นโยบายภาครัฐ ตั้งเป้าในปี 2030 ประเทศไทยจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถยนต์นั่งและรถกระบะ ปีละประมาณ 725,000 คัน ซึ่งบริษัทประเมินว่า ประเทศไทยจะมีความต้องการ EV Charger จำนวนไม่น้อยกว่า 200,000-250,000 หัวชาร์จ
ทั้งนี้ SHARGE จึงได้จัดแคมเปญ “SHARGE ปลดล็อค” ชวนผู้พัฒนาโครงการ (Developer) บริษัทบริหารอาคาร (Property Management Company) เจ้าของร่วม คอนโดมิเนียมทุกแห่งทั่วประเทศ ร่วมติดตั้ง EV Charger ในโครงการคอนโดมิเนียมของตัวเองกับ SHARGE โดย SHARGE จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้ง EV Charger แบบ AC ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“การจะผลักดัน EV Ecosystem ของไทยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ต้องเริ่มจากระดับครัวเรือน ให้ทุกคนรู้สึกว่ารถ EV และ EV Charger เป็นเรื่องเข้าถึงง่าย ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลมีคอนโดมิเนียมขึ้นใหม่ราว 7 แสนยูนิต หากนับทั่วประเทศ น่าจะมีมากกว่า 1 ล้านยูนิต SHARGE จึงยินดีที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยในทั้งคอนโดมิเนียมโครงการใหม่และโครงการเก่าทั่วประเทศจำนวนนับล้านครัวเรือน มีโอกาสเข้าถึง EV Charger ได้ง่ายขึ้น ยกระดับ EV Infrastructure อย่างรวดเร็ว ด้วยการลงทุนติดตั้งให้ในครั้งแรก เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยที่กำลังพิจารณาซื้อรถ EV” นายพีระภัทร กล่าว
สำหรับแคมเปญ “SHARGE ปลดล็อค” เปิดให้ผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ บริษัทบริหารอาคาร และเจ้าของร่วม ซึ่งบริหารและอาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว ติดต่อประสานงานบริษัท โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อเข้าไปดูสถานที่หน้างาน ประเมินความต้องการ และนำเสนอแผนการติดตั้งให้ต่อไป
ทั้งนี้ บริการติดตั้งในคอนโดมิเนียมของบริษัท จะเป็นบริการแบบครบวงจร One-Stop Service ตั้งแต่การประสานกับหน่วยงานด้านการไฟฟ้าที่รับผิดชอบพื้นที่ ไปจนถึงการติดตั้ง และการบริการหลังการขาย