ธ.ก.ส. หนุนกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟดอยช้าง

Date:

ธ.ก.ส.

นายพงษ์พันธ์ จงรักษ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. เยี่ยมชมงานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟดอยช้าง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นชนเผ่าอาข่าและลีซู กว่า 1,500 ครัวเรือน โดยรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า บนพื้นที่กว่า 24,500 ไร่ มีการพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ทั้งการปลูก การรวบรวม แปรรูป สู่การตลาด และได้รับการรับรองการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสหภาพยุโรป มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นกาแฟชนิดพิเศษคุณภาพสูง (Specialty Coffee) ซึ่งความตั้งใจในการผลิตกาแฟคุณภาพ และการเอาใจใส่ในมาตรฐาน ช่วยเสริมสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สมาชิกมากว่า 20 ปี โดยในช่วงที่ผ่านมาสมาชิกในกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 และวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถส่งออกกาแฟไปยังประเทศคู่ค้า รวมถึงร้านกาแฟดอยช้างไม่สามารถเปิดให้บริการ เนื่องจากมาตรการป้องกันของรัฐบาลและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ทำให้ขาดรายได้และส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้

จากสถานการณ์ดังกล่าว ธ.ก.ส. ได้ร่วมกับชุมชนเข้าไปแก้ปัญหาผ่านโมเดล Design and Manage by Area (D&MBA) หรือการออกแบบ – การจัดการเชิงพื้นที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาตรงกับความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง พร้อมนำจุดเด่นของชุมชนมาเป็นปัจจัยในการฟื้นฟูอาชีพ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนมาเติมความรู้ด้านการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และการสนับสนุนด้านการตลาด รวมถึงการดำเนินมาตรการดูแลเพื่อลดภาระและความกังวลใจด้านหนี้สิน ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับที่มาของรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ การลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้ที่เกิดจากเหตุสุจริต สูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ในกรณีชำระหนี้เสร็จสิ้น เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ และมีความตั้งใจที่จะชำระหนี้กลับมามีความสามารถในการประกอบอาชีพและมีรายได้ การให้รางวัลกับลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีผ่านโครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ยร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงไม่เกิน 1,000 บาทต่อราย ให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ที่ถึงกำหนด เพื่อลดภาระในการชำระหนี้และเสริมสภาพคล่อง วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังเติมสินเชื่อใหม่เพื่อลดปัญหาการก่อหนี้นอกระบบที่เป็นภาระหนักและเสริมศักยภาพในการผลิต รวบรวม และจำหน่าย ผ่านมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้า ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายจำเป็นฉุกเฉิน เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 คิดดอกเบี้ย MRR วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท และ โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนประกอบอาชีพ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 ชำระคืนภายใน 15 ปี และสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ในช่วง 2 ปีแรก โดยปลอดชำระดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ปีถัดไปคิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ ร้อยละ 6.50) และ MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 4.875) ซึ่งมาตรการการต่างๆ ดังกล่าว ช่วยให้สมาชิกในกลุ่มมีขวัญกำลังใจและกลับมามีศักยภาพในการประกอบอาชีพ รองรับกับการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ หลังการเปิดประเทศทั้งของไทยและทั่วโลก

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

อลิอันซ์ อยุธยา พลิกเกมสื่อสารตลาดประกัน เปิดตัว ‘ตรงไป ตรงมา’

อลิอันซ์ อยุธยา พลิกเกมสื่อสารตลาดประกัน เปิดตัว ‘ตรงไป ตรงมา’ ตอกย้ำจุดยืนแบรนด์ที่เน้นความโปร่งใส มุ่งสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว

เปิดศักยภาพแบรนด์ไทยบนเวทีโลก! จิม ทอมป์สัน

เปิดศักยภาพแบรนด์ไทยบนเวทีโลก! จิม ทอมป์สัน ผ่าอนาคตสิ่งทอเมืองไทย ดันหัตถศิลป์ดั้งเดิม สู่ซอฟต์พาวเวอร์ยุคใหม่ที่ถักทอจากมรดกทางวัฒนธรรม

อาหารแปรรูป อร่อยง่าย เสี่ยงตายเร็ว

สภาพัฒน์ เผยบทความ อาหารแปรรูป อร่อยง่าย เสี่ยงตายเร็ว

DMT คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ปี 2568

DMT คว้า 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ปี 2568 ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน สะท้อนความโปร่งใส