ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.1% เติบโตชะลอลงจากปี 2564 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอลงและภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ยังคงยืดเยื้อ
ในปี 2564 มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในภาพรวมขยายตัว 16.5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยเติบโตขึ้นมาก
สำหรับปี 2565 มูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยคาดว่าจะสามารถขยายตัวที่ 4.1% โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งส่งผลดีต่อการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า วงจรพิมพ์ และเซมิคอนดักเตอร์
อย่างไรก็ดี การเติบโตในปีนี้ มีแนวโน้มชะลอลงสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกที่ยืดเยื้อยังส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าขั้นปลายหลายประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ เป็นต้น
ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2565 และในระยะต่อไป คือ สถานการณ์ขาดแคลน เซมิคอนดักเตอร์ การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ รวมไปถึงแนวโน้มการย้ายฐานการผลิต และมาตรการกีดกันทางการค้าจากประเทศคู่ค้าของไทย
EIC มองว่า ผู้ประกอบการกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ควรปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ดังนี้ กระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัตถุดิบ ด้วยการจัดหาวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนจากประเทศอื่นมากขึ้น รวมทั้งควรเก็บสต็อกวัตถุดิบให้นานขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในอนาคตได้ดีขึ้นและป้องกันปัญหาการหยุดชะงักของภาคการผลิต