Krungthai Compass ประเมินว่า รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวจะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปยังจีน เนื่องจาก
1) ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง
2) เป็นอีกช่องทางช่วยรองรับการส่งออกสินค้าไปจีนที่มีแนวโน้มเติบโตและช่วยแก้ปัญหาคอขวดการขนส่งที่ติดขัดทางบก
3) ช่วยให้ SMEs เกษตรและอาหารไทยขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม CBEC ของจีนได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น
4) โอกาสในการขยายฐานตลาดสินค้าเกษตรและอาหารไปยังประเทศอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงด้วยรถไฟ
นอกจากนี้ สินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่จะได้ประโยชน์เป็นกลุ่มแรกๆ ได้แก่ กลุ่มผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง และไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง โดยคาดว่าในระยะแรก (ปี 2022-2025) รถไฟความเร็วสูงฯ จะช่วยเพิ่มมูลค่าส่งออกสินค้าทั้ง 2 กลุ่มให้กับไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 4,329 ล้านบาทต่อปี และอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นอีกปีละกว่า 10,000 ล้านบาท ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการขยายตลาดนี้เพิ่มเติม อาทิ ความคุ้มค่าในการปรับเปลี่ยนการขนส่งมาเป็นทางราง และการเชื่อมต่อการขนส่งจากทางรางสู่ผู้บริโภคใน สปป.ลาว รวมทั้งอุปสรรคด้านกฎระเบียบและข้อบังคับระหว่างประเทศต่าง ๆ