มร.นาโอกิ คาวามาตะ ซีอีโอ บริษัท ไทย เมจิ ฟู๊ด จำกัด กล่าวว่า ไทย เมจิ ฟู๊ด ตัดสินใจครั้งสำคัญพร้อมสู้ศึกเดินหน้าเข้าสู่ตลาดนมผงในประเทศไทย สืบเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของตลาดนมผงสำหรับเด็ก มีสัดส่วนที่ใหญ่เมื่อเทียบกับนมผงสูตรอื่น และผู้นำที่ค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่ดี คาดการณ์ชิงส่วนแบ่งการตลาดได้บางส่วนภายในปี 2023
ในขณะที่ตลาดนมผงในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท ถึงแม้ตลาดจะชะลอตัว แต่สำหรับนมผงพรีเมี่ยมสำหรับเด็กยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์นมผง ที่มีจุดขายต่าง ๆ ที่เฉพาะและราคาที่ค่อนข้างสูง โดยกลุ่มผู้บริโภคหลักที่ขับเคลื่อนภาพรวมตลาดดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคุณแม่ในช่วงวัยทำงาน และมีความต้องการเลือกสิ่งที่ดีให้กับลูก
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพ่อแม่รุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง หรือมีไลฟ์สไตล์เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้กระแสตลาดนมและอาหารสำหรับเด็กเริ่มมีแนวโน้มเน้นไปที่ความสะดวก โดยมั่นใจว่านมผงในรูปแบบก้อนที่ใช้เทคโนโลยีในการแปรสภาพเอกสิทธิ์ หนึ่งเดียวจากเมจิ ประเทศญี่ปุ่น จะเป็นที่ต้องการของคุณแม่คนไทยในปัจจุบัน
“เราเชื่อมั่นว่า เมจิ อีซี่คิวบ์ จะมีโอกาสในการเจาะตลาดนมผงในประเทศไทย ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงใช้กลยุทธ์ใหม่ที่จะมุ่งเน้นการขายนมผงชนิดก้อนเพียงอย่างเดียว” มร.คาวามาตะ กล่าวเสริม
ในส่วนของการจัดจำหน่าย ไทย เมจิ ฟู๊ด จับมือพันธมิตร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เมจิ อีซี่คิวบ์ ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อม ความเชี่ยวชาญทั้งด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน รวมไปถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายทั่วประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด รีเทลเชน อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าทั่วไป เครือข่ายร้านขายของชำอื่นๆ และยังรวมไปถึง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ร้านแม่และเด็ก และช่องทางอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ เช่นกัน