นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการแถลงความสำเร็จโครงการ DBD SERVICE X MARTECH STARTUP ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างธุรกิจ Startup ที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยส่งเสริมด้านการตลาดแก่ผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นการช่วยสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจ Startup และพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดของ SME ด้วยระบบบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าและระบบบริหารการขายอัตโนมัติ เพื่อเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจของไทย
โดยมีผู้ประกอบการ SME จากทั่วประเทศสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 400 ราย ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจทุกประเภท โดยมีธุรกิจจำนวน 253 ราย อาทิ ผู้ประกอบการโรงงานผลิต ผู้จัดจำหน่าย ธุรกิจนำเข้า ธุรกิจแฟรนไชส์ e-Commerce อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงาม สุขภาพ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ชุมชนและอื่นๆ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทดลองใช้ระบบเครื่องมือส่งเสริมการตลาดออนไลน์จากสตาร์ทอัพชั้นนำของไทย เป็นระยะเวลา 90 วัน
ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สามารถสร้างยอดขายมูลค่ารวม 34,188,821 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดขายรวมก่อนใช้ระบบถึง 61% ผู้ประกอบการ SME แต่ละรายเพิ่มยอดขาย 10 – 30% ช่วยลดระยะเวลาปิดการขาย เฉลี่ย 50% และช่วยปิดการขายต่อเดือนเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 15% ของจำนวนปิดการขายเดิม รวมทั้งสามารถต่อยอด ใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ นำไปสู่การวางแผน ลดจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งของร้านค้าต่อไป
“กรมฯ ขอขอบคุณพันธมิตร Startup ชั้นนำของประเทศไทยทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย AIYA, deeple, Fillgoods, iBOTNOI, Onechat.ai, Shipnity, V Rich App และ Zwiz.ai ที่สนับสนุนการให้บริการระบบบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดีเยี่ยมแบบครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำแก่ธุรกิจ SME ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยให้ SME เติบโตและขยายธุรกิจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราบรื่น และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน MarTech (Marketing Technology) ได้ถูกนำมาใช้กับการทำการตลาดอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ได้ดี ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการด้านการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การวางแผนการทำการตลาด การทำแคมเปญการตลาด การนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ การบริหารการขาย รวมถึงการเก็บข้อมูลและวัดผลต่างๆ ด้านการตลาดให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อสร้างสรรค์การให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและเชื่อมต่อในแต่ละช่องทาง ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอจากพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ทำให้ความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลของธุรกิจในยุค Data Driven เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บข้อมูล และวางแผนการตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงของลูกค้าได้ อธิบดี กล่าว