“พิชัย” นำทัพหารือรัฐมนตรีพาณิชย์จีน ขยายช่องทางการค้า 

Date:

นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในงาน China International Import Expo – CIIE ครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติประจำปีที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นของจีน และจัดครั้งแรกในปี 2561 โดยปีนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมระหว่างประเทศนครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai National Exhibition and Convention Center)         

โดยในการเดินทางไปครั้งนี้ นายพิชัยมีโอกาสที่จะพบปะหารือกับนายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน และจะใช้โอกาสนี้ขอบคุณที่เชิญไทยเข้าร่วมงาน CIIE ผลักดันให้มีการจัดประชุม JC เศรษฐกิจไทย-จีน ในระดับรองนายกรัฐมนตรี ในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน การขยายความร่วมมือในระดับเมืองและมณฑล ซึ่งที่ผ่านมา ไทยได้ร่วมมือกับจีนแล้ว 4 เมือง/มณฑล คือ ไห่หนาน กานซู่ เซินเจิ้น และยูนนาน มีแผนที่จะทำเพิ่มเติม ได้แก่ เจ้อเจียง กว่างซีจ้วง ฝูเจี้ยน (เมืองเซี่ยเหมิน) ซานซี เฮยหลงเจียง เหอเป่ย ซานตง และจี๋หลิน การร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ และจะใช้โอกาสนี้ผลักดันร้านอาหาร Thai SELECT ให้เป็นที่รู้จักในจีนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเชิญชวนให้จีนมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย

นอกจากนี้ จะเข้าร่วมพิธีเปิดงาน China International Import Expo ครั้งที่ 7 โดยคาดว่านายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน จะให้เกียรติเป็นประธานเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการไทย 20 บริษัท เข้าร่วมงาน โดยเน้นสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม Soft Power อาทิ อาหาร ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และธุรกิจบริการเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ และยังมีการประชาสัมพันธ์ตรา Thai SELECT และสินค้าข้าวไทยด้วย

ขณะเดียวกัน จะใช้โอกาสนี้ เปิด Thailand Pavilion แสดงภาพลักษณ์ประเทศไทย ในฮอลล์ Country Exhibition และเยี่ยมชมคูหาผู้ประกอบการไทย พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการไทย และจะเข้าร่วมกิจกรรมสาธิตการทำอาหาร เมนูแกงมัสมั่น บริโภคกับข้าวหอมมะลิไทย เพื่อโปรโมต Soft Power อาหารของไทย

สำหรับจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันที่สูงที่สุดกับไทยเป็นเวลาติดต่อกันถึง 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 104,999.92 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.65 ล้านล้านบาท) ลดลง 0.19% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นมูลค่าส่งออกไทยไปจีน 34,173.34 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.18 ล้านล้านบาท) ลดลง 0.75% และมูลค่านำเข้าจากจีน 70,826.58 ล้านเหรียญสหรัฐ (2.47 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 0.08 % ซึ่งไทยขาดดุลจีนมูลค่า 36, 653.24 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.30 ล้านล้านบาท) ส่วนช่วง 9 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าไทยและจีนมีมูลค่ารวม 84,811.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,049,412.25 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.38% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 26,390.65 ล้านเหรียญสหรัฐ (942,630.20 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 0.03% การนำเข้ามูลค่า 58,420.45 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,106,782.05 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 11.06% โดยไทยขาดดุลการค้า 32,029.80 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,164.151.85 ล้านบาท) โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปจีน  5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง 2.ผลิตภัณฑ์ยาง 3.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 4.เม็ดพลาสติก 5.ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และสินค้านำเข้าหลักของไทยจากจีน ได้แก่ 1.เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 2.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 3.เคมีภัณฑ์ 4.เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 5.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

Krungthai CIO แนะสะสมหุ้นสหรัฐ รับอานิสงส์นโยบายทรัมป์

Krungthai CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่ง รับอานิสงส์นโยบายทรัมป์ แนะสะสมหุ้นการเงิน พลังงาน และหุ้นขนาดเล็กสหรัฐฯ

กรุงเทพประกันภัย ยึดมั่นความเป็นองค์กรโปร่งใส

กรุงเทพประกันภัย ยึดมั่นความเป็นองค์กรโปร่งใส รับประกาศนียบัตรรับรองจาก CAC

Trump 2.0 : ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC วิเคราะห์ Trump 2.0 : ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย

กลุ่มธนาคารยูโอบี กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11

กลุ่มธนาคารยูโอบี รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11  เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 1.6  พันล้านเหรียญสิงคโปร์