“พิชัย” เร่งเครื่องเจรจา FTA ไทย-EU

Date:

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้หารือผ่านระบบประชุมทางไกลกับ นายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และความโปร่งใส เพื่อผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยและสหภาพยุโรป (EU) ตามนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งสรุปการเจรจาภายในปีนี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุนจากยุโรปให้มากขึ้น

โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงจุดยืนร่วมกันว่า การเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ไว้ใจได้และมีเสถียรภาพ” (trusted and predictable) ผ่านการจัดทำ FTA เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ไทยและ EU มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อข้อกำหนดในข้อตกลง FTA นายพิชัยเน้นย้ำว่า ความยืดหยุ่นและความช่วยเหลือทางวิชาการจาก EU จะมีส่วนช่วยให้การเจรจาประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น

นายพิชัยระบุว่า EU เป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่และเป็นพันธมิตรทางการค้ารายสำคัญของไทย หากสามารถสรุปผลการเจรจา FTA ได้ จะช่วยสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยในการแข่งขันระดับโลก ลดต้นทุนการผลิต ดึงดูดการลงทุน และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้ การเจรจา FTA ไทย-EU ดำเนินไปแล้ว 4 รอบ โดยสามารถสรุปผลการเจรจาได้ 2 บท และเริ่มหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและบริการแล้ว สำหรับการเจรจารอบที่ 5 ฝ่าย EU จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 โดยไทยกับอียูจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 

และแม้ว่าการเจรจา FTA ฉบับนี้จะซับซ้อนและมีประเด็นใหม่ๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ พลังงานและวัตถุดิบ รัฐวิสาหกิจและการอุดหนุน การแข่งขันทางการค้า และระบบอาหารที่ยั่งยืน แต่กระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างแข็งขัน ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และหารือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเจรจาบรรลุผลและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้บริโภคไทย

นอกจากการหารือกับกรรมาธิการยุโรป นายพิชัยยังได้พบปะ นายเดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูต EU ประจำประเทศไทย เพื่อหารือประเด็นการค้าอื่นๆ อาทิ กระบวนการระงับข้อพิพาทในองค์การการค้าโลก (WTO) การนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยไปยังตลาด EU ความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) การเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ของ EU

นายพิชัย ย้ำว่า การเร่งสรุป FTA ไทย-EU ไม่ใช่แค่การเพิ่มมูลค่าการค้า แต่เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทย โดยไทยจะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้เพื่อขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุนจากยุโรปให้มากขึ้น ซึ่ง FTA ไทย-EU จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และช่วยให้ไทยปรับตัวได้ดีขึ้นต่อการแข่งขันในเวทีโลก

โดย EU เป็น คู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย (รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น) โดยมีมูลค่าการค้ารวม 43,533 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.54 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็น 7.17% ของการค้ารวมของไทยกับโลก ไทยส่งออกไป EU มูลค่า 24,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 850,000 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญอาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และชิ้นส่วน และไทยนำเข้าจาก EU มูลค่า 19,328 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 687,000 ล้านบาท) สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องบินและอุปกรณ์การบินเคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้า

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ออมสิน เปิดตัวสินเชื่อสร้างเครดิต ดึงคนฐานรากได้สินเชื่อ 5 แสนราย

ออมสิน เปิดตัว สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ดึงคนฐานราก 5 แสนรายเข้าสู่ระบบสินเชื่อ เป็า 1 ล้านราย ภายใน 3 ปี

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ A

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ A และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ

นายกฯ พอใจผลการปราบบุหรี่ไฟฟ้า

นายกฯ ถกติดตามปราบบุหรี่ไฟฟ้า พอใจตัวเลข 2 สัปดาห์ ดีขึ้น ไม่นิ่งนอนใจ ฝากการบ้านตรวจบางตัวใส่สารเสพติด

จ่อ ลดค่าโอนและจำนอง อุ้มอสังหาฯ

คลังเร่ง ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง พร้อมผ่อนปรนมาตรการ LTV อุ้มภาคอสังหาฯ