“พิชัย” หารือ สภาหอการค้าฯ ลุยเจรจา FTA

Date:

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับคุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางผลักดันการค้าการลงทุนของไทยในปี 2568 โดย รมว.พาณิชย์ ได้นำเสนอถึงการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ที่จะช่วยสร้างโอกาสการค้าไทย ทั้งการเดินหน้าเจรจา FTA ไทย-อียู การดูแลสินค้าเกษตร และปราบสินค้าด้อยคุณภาพ พร้อมทั้งรับฟังความเห็นและข้อเสนอในการประชุมวันนี้ ไปบูรณาการการทำงานต่อไป

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ดีใจทุกครั้งที่ได้มาเยี่ยมหอการค้าไทย เหมือนมาบ้าน รู้จักกันมาทั้งหมด รัฐบาลที่นำโดยท่านนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) และกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างใกล้ชิด เรามีหลักการทำงานแบบพาณิชย์เชิงรุก นโยบายผมคือ 80:20 นั่นคือ 80% เน้นสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการให้เติบโต ส่วนอีก 20% เน้นการกำกับดูแล ตรวจสอบ เช่น เรื่องสินค้าด้อยคุณภาพ

นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยเวลานี้ ถือว่ามาถูกทาง ประเทศไทยเราแย่มาสิบปี เราโตเฉลี่ย ปีละ 1.9% มาสิบปี เราโตต่ำแบบนี้ การจะแก้ ถือว่าไม่ง่าย และไม่เร็ว แต่ขอย้ำว่าทิศทางดีขึ้นมาก ส่งออกไทยปี 2567 โต 5.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งออกเดือนมกราคมสูงถึง 13.6% กุมภาก็น่าจะขยายตัวดีในระดับเดียวกัน สอดรับกับที่เราประเมินว่าการส่งออกจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ในภาพรวม เครื่องจักรทางเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งหมด ทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้มีสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวเราก็ดี การลงทุนของภาครัฐก็ดี 

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน ต้องขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับหน่วยต่างๆ แก้ปัญหาหนี้ รวมทั้งขอให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องหนี้กันอย่างไร โดยอยากให้ช่วยพิจารณาเสนอแนะแนวทางกันเข้ามา  

นายพิชัย ได้ถือโอกาสนี้นำเสนอถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการค้าไทย ประกอบด้วย การเร่งเจรจา FTA และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ FTA ไทย-เอฟต้า และ ไทย-ภูฏาน ที่กำลังเร่งเจรจาต่อมาคือ FTA ไทย-อียู ซึ่งจากการหารือร่วมกับนายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าฯ ก็ตั้งเป้าร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568  ส่วน FTA ฉบับอื่นๆ ก็จะเร่งเจรจา ทั้ง ไทย-เกาหลีใต้, ไทย-ยูเออี, อาเซียน-แคนาดา เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทั้งหมดนี้ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุน

ต่อมา คือการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อปรับโครงสร้างการส่งออก ทั้ง AI Data Center และ PCB ซึ่งทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต, การชูไทยเป็นคลังอาหารของโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งประเทศตะวันออกกลางให้ความสนใจอย่างยิ่ง, การดูแลและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง รวมทั้งการดำเนินนโยบายทลายทุนผูกขาดข้าว เปิดเสรีข้าว

การสร้าง Thailand Brand การันตีคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย, การปรับโฉม Thai SELECT เทียบชั้นมิชลินสตาร์,การส่งเสริมสินค้า Thailand Next Level เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าไทย, การแก้ปัญหาสินค้า/ธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งล่าสุดได้มีการตั้ง คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อทำให้ความเข้มข้นของการปราบปรามดียิ่งขึ้น ไปจนถึง การเตรียมการรับมือต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมวันนี้นับเป็นเวทีประวัติศาสตร์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มาเข้าเยี่ยมเยือนสร้างกำลังใจ สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ได้ชี้แจงถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหอการค้าไทยอย่างมาก ที่เราเห็นเป็นปัญหาร่วมกันคือเรื่องหนี้ และเอสเอ็มอีที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ดีใจที่รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องรถกระบะที่มีการยึด แล้วช่วยคุยให้มีการปล่อยกู้ เพื่อให้เขามีรถใช้ทำมาหากิน วันนี้ กำลังซื้อตก ถ้าเราแก้ได้ อย่างอื่นจะดีขึ้น 

การส่งออกของเรา ท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะข้อตกลงเอฟทีเอ ไทย-อียู ที่เราอาจจะได้ฉลองกันปลายปีนี้ หอการค้าได้ขอร้องให้เจรจาเรื่องน้ำเชื่อมที่ไม่สามารถส่งออกจีนได้ ทุเรียนเช่นเดียวกัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ไปเจรจาเต็มที่ ไปเจรจาเชิงรุกให้รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ต่อมาการแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ เราทำงานเป็นทีมเพื่อจะช่วยผู้ประกอบการให้รอด เราได้พูดคุยถึงการรับมือกับนโยบายการค้าของทรัมป์ซึ่งได้รับทราบว่า รัฐบาลได้ทำงานล่วงหน้าไปแล้ว และยินดีที่จะจับมือกับภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

ในวงประชุมวันนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ยังได้รับฟังความเห็นและข้อเสนอต่างๆ จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การแก้ปัญหาส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าไปจีน, การปนเปื้อนสาร BY2 ต่อการส่งออกทุเรียนไทย, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเร่งผลักดัน FTA เพื่อขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยูเรเซีย และทบทวน FTA ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การเข้าร่วมงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) รวมทั้ง การรับฟังข้อเสนอถึงโอกาสและอุปสรรคการค้าในภูมิภาคต่างๆ เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เวียดนาม  

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ เผย ไม่โดนระงับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ

นายกฯ เผย ไม่โดนระงับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ให้กระทรวงต่างประเทศแจงรายละเอียด

ประกันสังคม ยืนยัน! รับเงินชราภาพตอนอายุ 55 ปี เหมือนเดิม

สำนักงานประกันสังคม ยืนยัน! ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอายุรับสิทธิชราภาพ 55 ปี เหมือนเดิม ไม่ใช่ 65 ปี ตามที่เป็นข่าวลือ

ธนาคารกรุงเทพ ปลื้ม “Green Innovative Solutions Startup Pitching”

ธนาคารกรุงเทพ ประกาศความสำเร็จงาน “Green Innovative Solutions Startup Pitching” ประกาศผล 3 สตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมสีเขียว

บมจ.โรงพยาบาลนครธน เปิดแผนปี 68 ปักหมุดรายได้เติบโต 8-10%

บมจ.โรงพยาบาลนครธน เปิดแผนปี 68 เดินหน้า 7 กลยุทธ์หลัก ปักหมุดรายได้เติบโต 8-10%