บีโอซี เอวิเอชั่น (BOC Aviation) หนึ่งในบริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบินชั้นนำของโลก ได้ลงนามในคำสั่งซื้อเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ (A320neo) กับแอร์บัส (Airbus) เป็นจำนวน 70 ลำ ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อที่รอส่งมอบของ BOC Aviation กับทางแอร์บัส เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
คุณสตีเวน ทาวน์เอนด์ (Steven Townend) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ BOC Aviation กล่าวว่า “การทำธุรกรรมครั้งนี้จะทำให้ยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสที่เหลืออยู่ของเราเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200 ลำ และทำให้ยอดส่งมอบเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมดของเรามีจำนวนรวมมากกว่า 700 ลำ (รวมการซื้อและเช่ากลับ) นับตั้งแต่ที่เราได้เริ่มสั่งซื้อครั้งแรกในปี 2539” และเสริมว่า “คำสั่งซื้อนี้ตอกย้ำสถานะของเราในฐานะหนึ่งในห้าผู้ให้บริการเช่าเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลก และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผนการส่งมอบเครื่องบินของเราในอีก 10 ปีข้างหน้า เราหวังว่าจะได้ส่งมอบเครื่องบินรุ่นยอดนิยม ที่ทั้งประหยัดเชื้อเพลิง และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ให้กับลูกค้าสายการบินรายอื่น ๆ ต่อไป”
คุณเบอนัวต์ เดอ แซงต์-เอกซูเปรี (Benoit de Saint-Exupéry) รองประธานบริหารฝ่ายขาย ธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส กล่าวว่า “คำสั่งซื้อที่สำคัญจาก BOC Aviation ครั้งล่าสุดนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องที่มีต่อเครื่องบินตระกูล A320neo ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบทางเดินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก การลงทุนที่สำคัญครั้งนี้ได้ทำให้ BOC Aviation กลายเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของแอร์บัส และตอกย้ำถึงความต้องการในตลาดที่แข็งแกร่งและมั่นคงต่อเนื่องสำหรับเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพด้านการใช้เชื้อเพลิงของเรา รวมถึงคุณค่าในระยะยาวของเครื่องบินเหล่านี้ เครื่องบินตระกูล A320 ได้มอบประโยชน์การใช้งานที่โดดเด่นให้แก่ผู้ให้บริการการบิน และเรามีความยินดีและมุ่งหวังที่จะสานต่อความร่วมมือกับ BOC Aviation เพื่อมอบโซลูชันด้านฝูงบินที่มีความล้ำสมัยให้กับสายการบินต่าง ๆ ต่อไป”
เครื่องบินตระกูล A320neo เป็นเครื่องบินโดยสารแบบทางเดินเดี่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมียอดคำสั่งซื้อรวมทั่วโลกแล้วมากกว่า 19,000 ลำ เครื่องบินตระกูลนี้ประกอบด้วยสมาชิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ เอ321นีโอ (A321neo) ซึ่งมีพิสัยบินและสมรรถนะที่เหนือชั้นอย่างไม่มีใครเทียบได้ โดยเครื่องบินตระกูล A320neo มอบความสามารถในการประหยัดเชื้อเพลิงและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องบินแบบทางเดินเดียวรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้วย ห้องโดยสารที่มีความกว้างมากที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มห้องโดยสารแบบทางเดินเดียวบนท้องฟ้าขณะนี้
เครื่องบินตระกูล A320neo สามารถใช้งานร่วมกับเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (SAF) ได้สูงสุดถึง 50เปอร์เซ็นต์ ในปัจจุบัน และจะสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573
