SCB EIC ประเมินส่งออกทั้งปีเสี่ยงหดตัว -0.4% 

Date:

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมินว่า มูลค่าส่งออกไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 จะขยายตัวดี โดยตัวเลขมูลค่าการส่งออกไตรมาส 1 ขยายตัวมากถึง 15.2% ขณะที่ไตรมาส 2 จะชะลอตัวลงมาก เพราะหลายแรงส่งสำคัญจะแผ่วลง โดยเฉพาะการเร่งสั่งซื้อของคู่ค้าก่อนนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผล อานิสงส์วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และปัจจัยการส่งออกทองคำ รวมถึงปัจจัยการส่งออกทองคำผสมโลหะอื่นไปอินเดีย นอกจากนี้ การส่งออกช่วงปลายไตรมาส 2 จะเริ่มได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มเก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 10% (Universal tariff) กับเกือบทุกประเทศคู่ค้าทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมาแล้ว รวมถึงประกาศเก็บสินค้าเฉพาะเจาะจง (Specific tariffs) รายประเทศ/รายสินค้าหลายรายการ เช่น สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม สินค้ายานยนต์   เก็บเพิ่ม 25% จากคู่ค้าเกือบทุกประเทศ อย่างไรก็ดี แม้ทรัมป์จะประกาศเลื่อนกำหนดเก็บภาษีตอบโต้รายประเทศ (Reciprocal tariffs) ออกไป 90 วันก็ตาม แต่จีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญสุดของไทยถูกสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ไปสูงมากถึง 125% (และหากรวมภาษีเฉพาะเจาะจงรายประเทศ 20% บนข้อกล่าวหา Fentanly ด้วยแล้ว จีนจะถูกเก็บภาษีตอบโต้รวมสูงถึง 145%)

SCB EIC ประเมินว่าการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปีจะเผชิญปัจจัยกดดันและความไม่แน่นอนที่รุนแรงมากขึ้น มูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีจะหดตัวรุนแรง โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้าย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกทั้งปีเสี่ยงหดตัว -0.4% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.6% (ตัวเลขระบบดุลการชำระเงิน, มุมมอง ณ มี.ค. 2025) สาเหตุหลักมาจาก

1 อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของสหรัฐฯ สูงและกระทบเป็นวงกว้างกว่าที่เคยคาดไว้ ในช่วงต้นปี SCB EIC ประเมินว่านโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ จะไม่สุดโต่งมากนัก อัตราภาษีนำเข้าตอบโต้ของสหรัฐฯ อาจจะไม่สูงมากและมีแนวโน้มส่งผลกระทบอย่างจำกัด โดยอัตราภาษีนำเข้าที่แท้จริง (Effective Tariff Rate : ETR) ของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นราว 11.3% อย่างไรก็ดี หากสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าทั้งหมดที่ประกาศไว้ จะมีผลทำให้ ETR ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% สูงกว่าที่ประเมินไว้เกือบเท่าตัว 

2 นโยบายภาษีตอบโต้ของทรัมป์จะกดดันให้เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก SCB EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะมีแนวโน้มเติบโตเพียง 2.2% (เทียบ 2.7% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2023) และโลกมีความเสี่ยงราว 35 – 50% ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) (รูปที่ 4 ซ้าย) นอกจากนี้ ปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มชะลอลงรุนแรงเช่นกัน องค์การการค้าโลก (WTO) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดประมาณการปริมาณการค้าโลกปี 2025 ลงจากการประเมินครั้งก่อนเหลือ -0.2 และ 1.7% (เดิม 2.7% และ 3.2% ตามลำดับ)

3 ไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางตรงสูง เนื่องจากพึ่งตลาดสหรัฐฯ และเสี่ยงอัตราภาษีนำเข้าตอบโต้สูง โดยสหรัฐฯ นับเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 18.3% ของการส่งออกไทยทั้งหมดในปี 2024 เพิ่มขึ้นมากจาก 12.7% ในปี 2019 หรือมีสัดส่วน 10% ของ GDP ซึ่งค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ไทยอาจโดนภาษีนำเข้าตอบโต้จากสหรัฐฯ สูงถึง 36% สูงกว่าอัตราค่าเฉลี่ยทั่วโลก เอเชีย และอาเซียนที่ 17% 23% และ 33% ตามลำดับ

    การส่งออกไทยจึงมีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางตรงสูงผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1) Substitution effect : สหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ไทยสูงถึง 36% ขณะที่ประเทศต่าง ๆ โดนอัตราภาษีน้อยกว่ามาก (ส่วนใหญ่ถูกเก็บภาษีเพิ่ม 10%) จึงอาจทำให้สหรัฐฯ หันไปนําเข้าสินค้าจากคู่แข่งที่ราคาถูกกว่า 2) Income effect : สหรัฐฯ อาจนําเข้าสินค้าจากไทยและคู่ค้าอื่น ๆ น้อยลง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอลงมากจากนโยบายกําแพงภาษีของตัวเอง

    4 ผลกระทบทางอ้อมอาจรุนแรงเช่นเดียวกัน เนื่องจากการแข่งขันนอกตลาดสหรัฐฯ อาจรุนแรงขึ้น ทำให้การส่งออกไทยอาจชะลอตัวลงได้ด้วย จาก 1) ความต้องการสินค้าขั้นปลายของไทยลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอลง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค 2) ความต้องการสินค้าขั้นต้นและขั้นกลางของไทยในห่วงโซ่การผลิตลดลง จากการผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง 3) การแข่งขันในตลาดส่งออกโลกสูงขึ้น บางประเทศอาจเผชิญปัญหาส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ได้น้อยลง แต่กำลังการผลิตในประเทศยังมีอยู่มาก ต้องระบายสินค้าขายตลาดอื่นมากขึ้น 4) บางประเทศคู่ค้าอาจหันไปนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพื่อลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ จึงอาจนำเข้าสินค้าไทยน้อยลง

    5 ตลาดส่งออกหลักอื่น ๆ ของไทยค่อนข้างกระจุกตัวในประเทศที่อาจถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีตอบโต้สูง โดย SCB EIC พบว่า 12 ใน 15 ตลาดคู่ค้าสำคัญของไทย คิดเป็น 73.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด (ไม่รวมสหรัฐฯ) เสี่ยงที่จะถูกกำแพงภาษีสหรัฐฯ สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกในอัตรา 17% (รูปที่ 8) การส่งออกไทยไปยังตลาดหลักอื่น  ๆ กลุ่มนี้อาจลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจประเทศที่อาจชะลอลงด้วย

    6 ปัจจัยหนุนตั้งแต่ต้นปีจะทยอยหมดลง เช่น การเร่งผลิตและส่งออกก่อนสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีจริง อานิสงส์วัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ปัจจัยการส่งออกทองคำจากความกังวลในช่วงความไม่แน่นอนนโยบายการค้าสูง และประเด็นพิเศษทองคำผสม

      SCB EIC มีกำหนดจะเผยแพร่บทวิเคราะห์เศรษฐกิจประจำเดือน รวมถึงมุมมองประมาณการเศรษฐกิจล่าสุด หลังทรัมป์ประกาศชะลอการเก็บภาษีตอบโต้ออกไป 90 วันในช่วงสัปดาห์นี้

      Share post:

      spot_img
      spot_img

      Related articles

      “อิ๊งค์” โพสต์ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

      “อิ๊งค์” โพสต์ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แจงภาพหลับไปทั้งแว่นตาเพราะเพลียมาก

      ขยายเวลาแก้หนี้เสีย “คุณสู้เราช่วย” อีกรอบถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้

      ขยายเวลาแก้หนี้เสีย “คุณสู้เราช่วย” อีกรอบถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ หลังลูกหนี้เมินเข้าโครงการ

      ธนาคารกรุงเทพ ร่วมงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum

      ธนาคารกรุงเทพ ร่วมงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum โชว์ศักยภาพ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’

      พาณิชย์ปูพรมตรวจเข้ม ร้านอาหาร-ธุรกิจต่างด้าว 

      พาณิชย์ปูพรมตรวจเข้ม ร้านอาหาร-ธุรกิจต่างด้าว ปกป้องผู้ประกอบการไทยจ่อเอาผิดกว่า 10 ราย