ส.อ.ท. ผนึก 9 พันธมิตร ยกระดับการบริหารจัดการน้ำ

Date:

ดร.ชนะ ภูมี ประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และความยั่งยืนของเศรษฐกิจโดยรวม เราต้องยกระดับประสิทธิภาพการใช้น้ำและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ดร.ชนะ กล่าว

ข้อมูลจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ปี 2564 ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยยังมีประสิทธิภาพการใช้น้ำเฉลี่ยเพียง 7.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 238 บาท (คิดจากอัตราแลกเปลี่ยน 31.76 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึงเกือบ 3 เท่า โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมซึ่งมีการใช้น้ำถึง 75% ของประเทศ แต่สร้างมูลค่าเพียง 11.4 บาท/ลบ.ม. ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและบริการ ใช้น้ำน้อยกว่า (รวม 25%) แต่สร้างมูลค่าสูงถึง 1,059 และ 931 บาท/ลบ.ม. ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าจากการใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด และความจำเป็นในการวางแผนจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ การอุปโภคบริโภค และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ดร.ชนะ กล่าวย้ำว่า “เรากำลังเผชิญกับโจทย์ใหญ่ด้านทรัพยากรน้ำในทุกมิติ การร่วมมือกันในวันนี้คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการขับเคลื่อนให้การจัดการน้ำไม่ใช่เพียงเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือภารกิจร่วมของทั้งสังคมไทย ที่สะท้อนถึงความตระหนักร่วมกันของทุกภาคส่วน ต่อความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น และแม้ประเทศไทยจะมีประสบการณ์ในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งมาโดยตลอด แต่การผนึกกำลังครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างรอบด้าน” เพื่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และยั่งยืน”

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำของประเทศ จะมีการดำเนินงานผ่าน 5 เสาหลักสำคัญ ได้แก่

1.  สมดุลน้ำและข้อมูล (Water Balance & Data): ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูล การติดตาม ประเมิน และคาดการณ์สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ

2.  การบริหารจัดการเชิงระบบ (Systematic Management): สนับสนุนข้อมูลและการบริหารจัดการแบบบูรณาการ สร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของน้ำทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ

3.  องค์ความรู้และนวัตกรรม (Water Innovation): ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและองค์ความรู้ผ่านการฝึกอบรมและศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ

4.  เครือข่าย WARROOM ระดับพื้นที่ (Local Water War Room): ยกระดับการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ด้วยการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลและการประเมินสถานการณ์น้ำ

5.  การสื่อสารข้อมูล (Water Communication): สังเคราะห์และนำเสนอข้อมูลสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

ความร่วมมือครั้งนี้มีพันธมิตรจาก 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

•  ด้านนโยบายและแหล่งน้ำ: สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), กรมชลประทาน, กรมทรัพยากรน้ำ, กรมทรัพยากรน้ำบาดาล

•  ด้านข้อมูลและการพยากรณ์: สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.), กรมอุตุนิยมวิทยา, กรมควบคุมมลพิษ

•  ด้านการใช้น้ำและภาคเอกชน: การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.), สมาคมผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมเอกชน, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) 

การขับเคลื่อนนี้ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อยกระดับศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำ (Water Management) และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการใช้น้ำ (Water Productivity) อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ เช่น เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำท่าจีน เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยง และเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำในระยะยาว

ส.อ.ท. เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำของประเทศไปสู่ความยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอย่างแท้จริง

รายชื่อหน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU:

1.  สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

2.  กรมชลประทาน

3.  กรมทรัพยากรน้ำ

4.  กรมทรัพยากรน้ำบาดาล

5.  สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.)

6.  กรมอุตุนิยมวิทยา

7.  กรมควบคุมมลพิษ

8.  การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

9.  สมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทย และพันธมิตร

10.  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“พิชัย” สั่งจัดงานใหญ่ ดันส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น

“พิชัย” สั่ง คต. เดินหน้าแผนรุกตลาดรองรับผลผลิตข้าว เตรียมจัดงานใหญ่ Thailand Rice Convention (TRC) ปลายเดือนนี้ ดันส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น 

TEAMG โตต่อเนื่อง Q1/68 โชว์กำไร 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%

TEAMG โตต่อเนื่อง Q1/68 โชว์กำไร 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เผยต้นปี-เมษา ตุนงาน 800 ล้านบาท ตั้งบอร์ด AI เสริมแกร่ง

กรุงไทยนำเทรนด์ ท่องเที่ยว ผ่าน Krungthai Travel Debit Card

กรุงไทยนำเทรนด์! จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว สร้างปรากฏการณ์ TOURIST สู่ TOURICH ผ่าน Krungthai Travel Debit Card

คลัง จ่ออก G-Token ประเดิม 5 พันล้าน

คลัง จ่อออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาลไทย (G-Token) วงเงิน 5 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 1 ปี ภายในเดือน ก.ค. นี้