
บริษัท ไพโรจน์พาณิชย์ (1954) จำกัดธุรกิจรับซื้อและจำหน่ายมะขามจ.ลำพูน โดยใช้ระบบเก็บรักษาใน “ห้องเย็น” มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าราคาสินค้าเกษตรในท้องถิ่น ส่งต่อสร้างรายได้สู่ชุมชน มอบโอกาสให้ชาวบ้านในท้องถิ่นมีอาชีพ และไม่หยุดพัฒนา หันมาใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนธุรกิจแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณมานิตย์ สุทธิไชยากุล และ คุณทัศนีย์ สุทธิไชยากุลผู้บริหาร บริษัท ไพโรจน์พาณิชย์ (1954) จำกัด ธุรกิจรับซื้อและจำหน่ายมะขามจังหวัดลำพูนเล่าถึงความเป็นมาของธุรกิจ กว่าจะเป็นห้องเย็นไพโรจน์พาณิชย์ในทุกวันนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากครอบครัวทำธุรกิจ“ร้านไพโรจน์พาณิชย์”เป็นตัวแทนรับซื้อสินค้าเกษตรต่าง ๆ จากชาวบ้าน เช่น กระเทียม หอมแดง และมะขามเป็นต้น นำไปขายต่อตามแหล่งต่าง ๆ ซึ่งกิจการดังกล่าว ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ จนเมื่อปี2531เข้ามาดูแลกิจการเต็มตัว พร้อมกับเปลี่ยนจากซื้อผลผลิตเกษตรหลายๆ ตัว หันมาเลือกรับซื้อ “มะขาม” เป็นหลัก
“จุดเปลี่ยนการทำธุรกิจ จากเดิมเราจะรับซื้อสินค้าเกษตรหลายตัวที่ออกมาตามฤดูกาล ซึ่งมีความเสี่ยง ราคาผันผวน ขึ้นลงตามความต้องการตลาด ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและเลือกสินค้าเพียง 1 ตัว คือ มะขาม เป็นสินค้าหลัก เพราะมีตลาดรองรับแน่นอน ขายได้ทั้งปี ดังนั้น เราตัดสินใจ ลงทุนทำห้องเย็น เพื่อจะรับซื้อมะขามจากชาวบ้านในช่วงที่ผลผลิตออกจำนวนมาก นำมาแช่เก็บไว้ เพื่อจะทยอยขายได้ทั้งปี” คุณมานิตย์ ระบุ

จากวันนั้นสู่วันนี้ ไพโรจน์พาณิชย์เดิมที่มีห้องเย็นจำนวน 1 ห้อง ขยายกิจการต่อเนื่องลงทุนกิจการสร้างโกดังเพิ่มเติม และมีห้องเย็นทั้งหมด11 ห้องโดยรับซื้อมะขามจากเกษตรกรทั่วทั้งภาคเหนือที่จะออกมากในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. ของทุกปี
จุดเด่นของไพโรจน์พาณิชย์คือความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจที่สะสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่โดยรับซื้อมะขามจากการเกษตรกรในจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง ควบคู่กับการจ้างแรงงานในชุมชน ที่ว่างงานหลังเก็บเกี่ยวสินค้าเกษตร รวมถึง ชาวไทยภูเขา ตลอดจนผู้สูงอายุ มาทำงานในโรงงาน
“หนึ่งในความภูมิใจของเรา คือ ได้สนับสนุนคนในชุมชนและชาวไทยภูเขาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น มะขามเป็นสินค้าที่อยู่หัวไร่ปลายนา แต่ละปีหากไม่เก็บก็ทิ้งเปล่าไป แต่เกษตรกรคนไหนขยันเก็บมาขาย ก็เปลี่ยนเป็นเงินได้ และยิ่งแกะเอาเปลือกออก เหลือเม็ดและเนื้อมาขาย ก็จะได้ราคาสูงขึ้น ซึ่งเราเปิดรับซื้อมะขาม ช่วยให้เขามีอาชีพ มีรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง” คุณทัศนีย์ เล่าและเสริมต่อว่า

ข้อดีของการเก็บรักษาผลผลิตมะขามไว้ในห้องเย็น จะช่วยไม่ให้สินค้าออกมาพร้อม ๆ กันจนเกิดภาวะล้นตลาด โดยเมื่อรับซื้อจากเกษตรกรแล้ว นำไปเข้าห้องแช่เย็น แล้วทยอยออกขายในช่วงราคาขึ้น ปัจจุบัน มะขามมีตลาดรองรับดีมาก เพราะสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งกลุ่มอาหาร และเครื่องสำอาง สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นดูแลสุขภาพมาก
ที่สำคัญ ธุรกิจห้องเย็นของบริษัท ไพโรจน์พาณิชย์ (1954) จำกัด สร้างห้องเย็นด้วยมาตรฐานและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นห้องเย็นที่ไม่ใช้ระบบแอมโมเนียแต่เป็นการใช้สารทำความเย็นตัวอื่นแทน ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นห้องเย็นที่ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ มาช่วยในการขับเคลื่อนการทำงาน
แม้การลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงานจะใช้เงินทุนสูง แต่คุณมานิตย์ระบุว่า คุ้มค่าในระยะยาว ยิ่งเมื่อได้รับการสนับสนุนเงินทุนเพื่อติดตั้งแผงโซล่าเซลล์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ในโครงการสินเชื่อSME Green Productivity ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่า เพราะมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทำให้ไม่ต้องควักเงินก้อนและเมื่อคำนวณจากค่าไฟฟ้าที่ประหยัดไปได้ในแต่ละเดือนแล้วเทียบกับการลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ นับว่าคุ้มค่ามาก

“ผนังห้องเย็นที่เราใช้หนากว่าปกติตามมาตรฐานทั่วไป อย่างเช่น หากอุณหภูมิที่ 5 องศาฯ จะใช้ความหนาอยู่ที่ 4-5 นิ้ว แต่ของเราจะใช้ที่ความหนาประมาณ 8-10 นิ้ว เพื่อประหยัดพลังงาน และการติดตั้งโซล่าเซลล์ ยิ่งช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดต้นทุนของการทำธุรกิจ” คุณมานิตย์ เสริม
บริษัท ไพโรจน์พาณิชย์ (1954) จำกัดเป็นอีกต้นแบบของการทำธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จโดยส่วนตัว แต่ยังสามารถสร้างประโยชน์ ส่งต่อไปสู่ภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในท้องถิ่นพร้อมกันด้วย