ขึ้นทะเบียน “มังคุดในสายหมอกเบตง” สินค้า GI

Date:

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์ มอบนโยบายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ผ่านการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า อีกทั้งยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศ ขึ้นทะเบียน “มังคุดในสายหมอกเบตง” เป็นสินค้า GI ลำดับ 4 ของจังหวัดยะลาต่อจากสินค้ากล้วยหินบันนังสตา ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา และส้มโชกุนเบตงที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้

“มังคุดในสายหมอกเบตง” เป็นมังคุดพันธุ์พื้นเมือง ลักษณะผลกลมโต เปลือกค่อนข้างหนา ผิวมัน สีม่วงอมแดง เมื่อผลสุกเต็มที่จะมีสีดำ ขั้วและกลีบเลี้ยงสีเขียว เนื้อมีสีขาวนวลปุยฝ้าย และไม่เป็นเนื้อแก้วยางไหล ไม่ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานนำเปรี้ยว ปลูกในเขตพื้นที่อำเภอเบตง และอำเภอธารโต จังหวัดยะลา ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศ เป็นที่ราบสูงเชิงเขาสลับช่องน้ำ มีแม่น้ำปัตตานีเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลจากทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ ผ่านอำเภอธารโตและไหลลงทะเลอ่าวไทยที่อำเภอเมือง ทำให้อำเภอเบตงและอำเภอธารโตเป็นพื้นที่ ที่เหมาะสมต่อการทำการเกษตร ประกอบกับสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง 3 ครั้งต่อวัน 

คือ ช่วงเช้ามีหมอก ช่วงเที่ยงมีแดด และช่วงเย็นมีฝนตกบ่อยครั้ง ส่งผลให้บริเวณ ที่ปลูกมังคุดในสายหมอกเบตงจะมีหมอกหนาปกคลุมเกือบทั้งปี ส่งผลต่อการปลูกมังคุด คือ เกิดการสร้างชั้นเนื้อของมังคุดแบบเคลือบทีละชั้น เนื้อจึงมีสีขาวนวลปุ้ยฝ้าย มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสชาติดี ทั้งสภาพภูมิอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ส่งผลให้มังคุดในสายหมอกเบตงมีคุณภาพดีและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ผู้บริโภคยอมรับในคุณภาพสินค้าและเรียกขานเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “มังคุดในสายหมอกเบตง” 

ต่อมา กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตได้เข้าร่วมการประกวดแปลงใหญ่ดีเด่นระดับจังหวัดของจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ ในปี 2564 สร้างความภาคภูมิใจและความน่าเชื่อถือในคุณภาพของมังคุดในสายหมอกเบตงให้เป็นที่ยอมรับ ของผู้บริโภคทั่วไป และมีการส่งออกไปตลาดต่างประเทศจำนวนมาก สร้างมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท

ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่า สร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือ โทรสายด่วน 1368

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ปมร้อนไทย-กัมพูชา ทำศก.ไทยเสียหาย 17,000 ล้านบาทต่อเดือน

Krungthai COMPASS ประเมิน ปมร้อนไทย-กัมพูชา ทำศก.ไทยเสียหาย 17,000 ล้านบาทต่อเดือน

ธอส. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพน้ำท่วมน่าน

ธอส. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน

นายกฯ ประชุม ติดตามหนุนกองถ่ายภาพยนตร์ไทย

นายกฯ ประชุมติดตาม Cash Rebate ให้กองถ่ายภาพยนตร์ไทย ยกระดับอุตสาหกรรม-สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ-พาหนังไทยแข่งขันระดับโลก

KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI

KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI เสริมศักยภาพพนักงาน ยกระดับนวัตกรรมการทำงานสู่การเป็น AI-Infused Tech Powerhouse ระดับภูมิภาค