
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 กลุ่มบริษัทบางจาก โดยบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท
บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC จัดพิธีเปิด “สวนเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา บางจากฯ เติมสุข สู่สังคม”
เพื่อส่งมอบพื้นที่เพื่อสาธารณะประโยชน์ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้กับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตคลองเตยเป็นผู้ดูแล โดยมีนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล กรรมการ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และพนักงานของกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตคลองเตย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กลุ่มบริษัทบางจาก ตลอดจนข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนชุมชนในพื้นที่ และเยาวชนจากสโมสรฟุตบอลเยาวชนบางจากร่วมในพิธี
สวนแห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 สอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงตระหนักถึงข้อจำกัดของพื้นที่สาธารณะในเขตเมือง และทรงมีพระราชประสงค์
ให้นำพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับชุมชน โดยได้ทรงริเริ่มโครงการ “ลานกีฬาพัฒน์”
เป็นต้นแบบ เริ่มขึ้นที่บริเวณคลองจั่นในปี 2556 และขยายผลสู่พื้นที่ใต้ทางพิเศษศรีรัชต์ บริเวณอุรุพงษ์ ในปี 2558

จากแนวพระราชดำริดังกล่าว กลุ่มบริษัทบางจากจึงได้ร่วมปรับปรุงพื้นที่บริเวณริมทางพิเศษเฉลิมมหานคร
เลียบทางลงทางด่วน ถนนสุขุมวิท 50 ขนาดพื้นที่รวมกว่า 5 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่การทางพิเศษฯ ได้อนุญาตให้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตคลองเตย ปรับปรุงเพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยบางจากฯ และ BSRC สนับสนุนการออกแบบ การก่อสร้างและพัฒนาให้เป็น “สวนสาธารณะเพื่อทุกคน” หรือ Park for All ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนเมือง ทั้งด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการสร้างปฏิสัมพันธ์ในชุมชน อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบาย “สวน 15 นาที” ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งให้ประชาชนเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ภายในระยะเดิน 15 นาทีจากที่พักอาศัย
สำหรับพื้นที่ภายในสวน ออกแบบให้รองรับการออกกำลังกาย กีฬา และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ได้แก่ สนาม
ฟุตซอล สนามบาสเก็ตบอล ลานสเก็ตบอร์ด หน้าผาจำลอง ทางเดินและลู่วิ่ง สนามเด็กเล่น ลานเอนกประสงค์ พื้นที่
จัดกิจกรรมขนาดย่อม หรือ Mini Amphitheater และทางเดินลอยฟ้า Ecological Skywalk ล้อมรอบด้วยบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้นานาพรรณ ทั้งจากการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่เดิมและการปลูกเพิ่มเติม อาทิ ต้นรวงผึ้ง พรรณไม้ประจำพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นเหลืองปรีดิยาธร ฯลฯ ที่ไม่เพียงให้ร่มเงา แต่ยังช่วยดูดซับ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อนำมาใช้ในบางส่วนของพื้นที่ ร่วมสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในอนาคต

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า “สวนแห่งนี้จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เติมสุข สู่สังคม” เพื่อส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด ในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ของการดำเนินธุรกิจของบางจากฯ ผมขอขอบคุณการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร ที่ให้บางจากฯ และ BSRC ได้ร่วมพัฒนาพื้นที่ผืนนี้เพื่อสาธารณะประโยชน์ ขอขอบคุณสำนักงาน
เขตคลองเตย สำหรับความร่วมมือในการจัดทำ และการดูแลสวนแห่งนี้ภายหลังการเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันนี้ รวมถึง
ทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สวนแห่งนี้จนสำเร็จ ซึ่งผมหวังว่า “สวนเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา บางจากฯ เติมสุข สู่สังคม”
จะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่และยั่งยืนต่อไป”

เกี่ยวกับ บางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมันผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล ร้าน Lemon Green น้ำมันหล่อลื่น FURIO EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 3) กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจแนวใหม่ เช่น ธุรกิจ Battery as a Service สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie และได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
บางจากฯ ได้รับการจัดอันดับ Top 1% ระดับสูงสุดของโลกด้านความยั่งยืน ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing ใน S&P Sustainability Yearbook 2025 โดย S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี DJSI รวมถึงได้รับการจัดอันดับที่ 17 ใน Fortune Southeast Asia 500 และเป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินความยั่งยืน MSCI ESG Ratings ระดับ AA สูงสุดในกลุ่ม Oil & Gas Refining, Marketing, Transportation & Storage ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 และได้รับการยกย่องจาก Financial Times ให้เป็น Asia Pacific Climate Leader ในปี 2024 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567” (Kincentric Best Employer Thailand 2024) เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มธุรกิจน้ำมันของไทยที่ได้รับการยกย่องจากองค์กรชั้นนำระดับโลก
บางจากฯ ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangchak.co.th/th/home