
นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง โพสต์เฟสบุ๊ก “Vorapak Tanyawong” ระบุว่า
เวลามีน้อย – ประชุมกับท่านนายกฯอนุทิน ตอนเช้า กับสภาอุตสาหกรรม ท่านเอกนิติขอนัดหารือกับทีม สอท วงเล็กต่อตอนเย็นเลย
สรุปข้อเสนอจาก ส.อ.ท. ต่อรัฐบาล (15 ก.ย. 2568)
1 ภาษีสหรัฐฯ & สินค้าทุ่มตลาด
Reciprocal Tariff 19% เริ่ม 7 ส.ค. 68 และความเสี่ยง Transshipment Tax 40%
ปัญหาสินค้าทุ่มตลาดจากจีนสะท้อนผ่านมูลค่าการนำเข้า–ส่งออกที่ผิดปกติ
ข้อเสนอ:
เร่งทำความเข้าใจกฎ RVC (Regional Value Content)
สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ & ส่งเสริม Local Content
ภาครัฐริเริ่ม Anti-Dumping Investigation และผลักดัน “Made in Thailand”
2 สภาพคล่อง SMEs
• SMEs จ้างงาน 13.4 ล้านคน (68.8%) ของประเทศ
• NPL พุ่งสูงถึง 243,026 ล้านบาท (มิ.ย. 68)
ข้อเสนอ:
Fast Track Loan ค้ำประกันโดย บสย. อนุมัติ 3–7 วัน
Soft Loan ดอกเบี้ย 1% วงเงิน 5–10 ลบ.
Hair Cut หนี้เสียจากโควิด-19 & ปัญหาชายแดน
3 พลังงาน
• ค่าไฟไทย 4.18 บาท/หน่วย สูงกว่า มาเลเซีย (1.80) และเวียดนาม (3.57)
• พึ่งพา LNG & สำรองไฟฟ้าเกินความต้องการถึง 52%
ข้อเสนอ:
ไม่ผลักภาระค่า LNG ให้ภาคอุตสาหกรรม
เร่งทำ PDP ใหม่ ภายในปี 68
เปิดเสรีไฟฟ้า (Renewables Auction, Direct PPA)
ลดเงินประกันใช้ไฟฟ้าเหลือ 0.5 เท่า
4 การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา
• การค้าลดลงหนัก: สินค้าอุปโภคบริโภค -60–90% / อุตสาหกรรม -70–90%
• ผู้ประกอบการต้องหันไปใช้ทางเรือ–ทางอากาศ ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น 4–8 เท่า
ข้อเสนอ:
ระยะเร่งด่วน: เพิ่มเที่ยวเรือขนส่ง + ค่าใช้จ่ายขนส่งหักภาษีได้ 2 เท่า
ระยะสั้น: Soft Loan + สิทธิประโยชน์ BOI เพื่อทดแทนนำเข้า
5 ค่าเงินบาทแข็ง
• แข็งค่า 7.34% YTD มากกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค
• กระทบหนักต่อผู้ส่งออก
ข้อเสนอ:
ศึกษาผลกระทบทองคำ & คริปโต ต่อค่าเงิน
ส่งเสริมการใช้สกุลท้องถิ่น (Local Currency Settlement)
ลดค่าธรรมเนียม Hedging กระตุ้นการบริหารความเสี่ยง
บทสรุป:
ส.อ.ท. ต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการทั้งเชิงรุก (Diversification, Made in Thailand, เปิดเสรีไฟฟ้า) และเชิงรับ (Soft Loan, Hair Cut, ภาษี Logistics) เพื่อช่วยอุตสาหกรรมไทยรับมือกับแรงกดดันจาก ภาษีสหรัฐฯ, พลังงานแพง, ชายแดนกัมพูชา และค่าเงินบาทแข็ง




