“พาณิชย์” จับมือ “SME D Bank” เดินหน้าปั้น ‘แฟรนไชส์ไทย’

Date:

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Success Beyond Standard ประกาศความสำเร็จในการยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย โดยมี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และผู้ประกอบการร่วมด้วย ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ 

นางศุภจี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์พยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านโครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสถาบันการเงิน ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่เติบโตจากฐานธุรกิจทั่วไป แต่สามารถสร้างการจ้างงานและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการ ‘กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว’ ให้เศรษฐกิจขยายถึงทุกพื้นที่

รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับ SME D Bank ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ผ่านวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 239 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยทั้ง แฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) และ แฟรนไชส์ซี (Franchisee) ให้มีสภาพคล่อง สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

“เราขอขอบคุณ SME D Bank ที่ให้การสนับสนุนอย่างดียิ่งในวันนี้ นับเป็นการช่วยเติมเต็มระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงช่วยธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ให้ขยายกิจการ แต่ยังเปิดโอกาสให้แฟรนไชส์ซีรายใหม่เข้าถึงทุนได้อย่างทั่วถึง นี่คือการสร้างการกระจายตัวของโอกาสอย่างแท้จริง” นางศุภจีกล่าว

โดยมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อนำร่องแล้ว 7 แบรนด์ ได้แก่ 1.มาโนอิ 2.Bear Wash       3.ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส 4.Laundrybar 5.Trendy Wash 6.24 Wash และ 7.กาแฟพันธุ์ไทย

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะยังคงร่วมมือกับ SME D Bank เพื่อคัดกรองธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพเพิ่มเติมอีกกว่า 300 ราย เข้าสู่กระบวนการสนับสนุนในระยะต่อไป เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินเชื่อและขยายกิจการได้อย่างมั่นคง

นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะ “หัวหอกสร้างมาตรฐานแฟรนไชส์ไทย” จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงช่วยยกระดับผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิมให้เข้าใจระบบแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ การวางโมเดลธุรกิจ การควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการ ไปจนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยมีการบูรณาการร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการผลักดัน แฟรนไชส์ไทยกว่า 48 กิจการ ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศกว่า 30 ประเทศ

และกิจกรรมในวันนี้ยังมีพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ 42 ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ที่ผ่านการประเมินตามมาตรฐาน DBD Franchise Standard ครอบคลุม 6 หมวดธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจอาหาร 17 กิจการ เครื่องดื่ม 11 กิจการ บริการ 7 กิจการ การศึกษา 4 กิจการ ความงาม/สปา 2 กิจการ และค้าปลีก 1 กิจการ รวมกว่า 3,754 สาขาทั่วประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,149 ล้านบาท

“วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ SME D Bank และภาคธุรกิจ แฟรนไชส์ไทย เราจะช่วยกันสร้างระบบทางธุรกิจที่เข้มแข็ง สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมั่นคงและแข็งแรง” รมว.พาณิชย์ กล่าว

ทั้งนี้ SME D Bank ได้เตรียม สินเชื่อพิเศษจากภาครัฐเพื่อเอสเอ็มอีไทย ดอกเบี้ย 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ไว้กว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยธุรกิจให้คล่องตัวลดภาระเพิ่มศักยภาพให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5983 และ franchise.dbd.go.th

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“วรภัค ธันยาวงษ์” ประกาศลาออกจาก รมช.การคลัง

“วรภัค ธันยาวงษ์” ประกาศลาออกจาก รมช.การคลัง เพื่อไม่ให้เรื่องที่ถูกใส่ร้ายเอี่ยวขบวนการสแกมเมอร์ กระทบการทำงานของรัฐบาล

กรมสรรพสามิต ขยายเวลาลดภาษีสถานบริการ อีก 1 ปี

กรมสรรพสามิตขานรับมติ ครม. ขยายเวลาลดภาษีสถานบริการอีก 1 ปี พร้อมบูรณาการความร่วมมือส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี

“คนละครึ่งพลัส” เพิ่มทางเลือกฟู้ดเดลิเวอรี เชื่อม G-Wallet

“คนละครึ่งพลัส” เพิ่มทางเลือกใช้ผ่านบริการฟู้ดเดลิเวอรี เชื่อม G-Wallet เป็นช่องทางชำระเงินโดยตรง

เตือน คนละครึ่งพลัส จงใจใช้สิทธิไม่ถูกต้อง จำคุก 3 ปี

เตือนร้านค้าและผู้ได้รับสิทธิ คนละครึ่งพลัส  ขายสิทธิ ใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อ-ขายสินค้าจริง โทษหนัก จำคุกสูงสุดถึง 3 ปี ถูกตัดสิทธิคืนเงินให้รัฐบาล