
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เร่งบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย และส่งต่อสิ่งของจำเป็นจากภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากโครงการ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้”
โดยนางศุภจีลงพื้นที่ที่ ตลาดกิมหยง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยร่วมทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมมอบข้าวกล่องจำนวน 1,000 กล่อง ให้แก่ประชาชนและอาสาสมัครเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมเยี่ยมเยียนผู้ค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด
“ผู้ประกอบการในพื้นที่ประสบความเสียหายมาก ทุกคนต้องการกำลังใจและความช่วยเหลืออย่างตรงจุด การลงพื้นที่และพบปะกับผู้ประกอบการและประชาชนอย่างใกล้ชิดทำให้เราได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการปรับปรุงและเพิ่มมาตราการเยียวยาที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะนำเอาข้อมูลไปประสานกับหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เราได้เดินหน้ามาตรการเยียวยาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุอุทกภัย โดยได้จัดส่งทั้งสิ่งของอุปโภคบริโภค วัตถุดิบประกอบอาหาร และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากภาคเอกชน 19 แห่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และกระทรวงพาณิชย์ยังจะส่งวัตถุดิบประกอบอาหารจำนวนมากให้ โรงครัวพระราชทานและโรงครัวในจุดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่ยังไม่สามารถประกอบอาหารได้“ นางศุภจี กล่าว
ในช่วงของการฟื้นฟูและเยียวยานี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าดูแลค่าครองชีพ จัดมหกรรมลดราคาสินค้าผ่านธงฟ้า ลดสูงสุดถึง 88% และดูแลสินค้าให้พอเพียงกับความต้องการ และกรมการค้าภายในจะเข้มงวดตรวจสอบ ไม่ให้มีการปรับขึ้นราคา พร้อมเตรียมจัดมหกรรมธงฟ้าในช่วงการประชุม ครม. ที่หาดใหญ่วันที่ 23 ธันวาคม โดยมีหน่วยรถโมบายลงพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อให้บริการประชาชนที่เดินทางมาที่จุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าลำบาก

นางศุภจี ระบุเพิ่มเติมว่า หนึ่งในประเด็นเร่งด่วนคือการฟื้นฟู สถานประกอบการโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพราะโรงแรมเป็นจุดสำคัญ เป็นที่พักของทั้งอาสาสมัคร ผู้ปฏิบัติงาน และนักท่องเที่ยว หากโรงแรมไม่สามารถเปิดได้ คนที่จะเข้ามาช่วยเหลือก็ไม่มีที่พัก เราจึงต้องเร่งดูแลอย่างใกล้ชิด วันนี้ได้เห็นว่าโรงแรมบางแห่งโดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กยังมีปัญหาเครื่องนอนไม่พร้อมหรืออุปกรณ์ที่เสียหายเนื่องด้วยไม่มีเงินทุนที่จะจัดซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้จำเป็นในการประกอบกิจการ ต้องเร่งช่วยเหลือเพื่อให้เขาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด รวมถึง ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม กิจการขนาดเล็ก ก็มีปัญหาเรื่องการขาดเงินทุนในการจัดหาอุปกรณ์จำเป็นในการกลับมาเปิดกิจการได้ ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปหารือเพื่อหามาตราการเยียวยาต่อไป
“เวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากการเยียวยาเพื่อฟื้นฟูพี่น้องชาวใต้ที่ประสบภัย เราอยากให้ชาวใต้รู้ว่าเราไม่ทิ้งกัน อยากให้ทุกคนยังมีแรงที่จะต่อสู้ต่อไป ให้เขารู้ว่ายังมีคนคิดถึงและดูแลเขา กระทรวงพาณิชย์และทุกภาคส่วนจะยังคงดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนกลับมายืนได้อีกครั้งหลังวิกฤตครั้งนี้” นางศุภจี กล่าว
โดยภายหลังการลงพื้นที่ตลาดกิมหยง คณะได้เดินทางไปยัง มณฑลทหารบกที่ 42 (ค่ายเสนาณรงค์) เพื่อส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ตัวแทนเทศบาลนครหาดใหญ่ ก่อนเดินทางต่อไปยัง โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เพื่อมอบถุงยังชีพและอุปกรณ์จำเป็นแก่ผู้ประสบภัย ณ อาคารร่มศรีตรัง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดพิธีรับมอบสิ่งของบริจาคกว่า 468,690 ชิ้น มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท จากผู้ประกอบการเอกชน 19 ราย ภายใต้โครงการ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” เพื่อกระจายสู่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัดภาคใต้ให้เร็วที่สุด และเดินหน้ามาตรการของกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1: ช่วยเหลือเร่งด่วน (ดำเนินการแล้ว)
-จัดส่งสิ่งของอุปโภคบริโภค วัตถุดิบอาหาร อุปกรณ์ทำความสะอาด และอุปกรณ์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
-สนับสนุนโรงครัวพระราชทานและโรงครัวทั่วพื้นที่
ระยะที่ 2: เยียวยา (ธ.ค. 2568 – ม.ค. 2569)
-จัดงาน “เยียวยาลดค่าครองชีพ” ลดราคาสินค้าจำเป็นสูงสุด 88%
-หน่วยเคลื่อนที่ Mobile Unit 3 จุดในพื้นที่เข้าถึงยาก
-สินเชื่อจาก SME D Bank และ สสว. เพื่อฟื้นอาชีพ
-แคมเปญลดราคาวัสดุก่อสร้างร่วมกับไทวัสดุ โฮมโปร ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ เมกาโฮม รวม 40 สาขา
ระยะที่ 3: ฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว
-ส่งเสริมอาชีพใหม่ผ่านแฟรนไชส์ราคาประหยัด พร้อมมาตรการซัพซิดี
-เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าในภาคใต้ 20 ครั้ง และจัดงานแสดงสินค้า 4 ครั้ง
-ฟื้นฟูผู้ประกอบการสินค้า GI
-ให้ EXIM Bank ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาและสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู




