“ศุภจี” กระชับความร่วมมือการค้า ไทย–ออสเตรเลีย 

Date:

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ ดร.แอนเจลา แม็กดอนัลด์ (Dr. Angela Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและโอกาสใหม่ ๆ ที่ทั้งสองประเทศจะสามารถเพิ่มความร่วมมือกันได้ทั้งในมิติของการค้าและการลงทุน

นางศุภจี เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสัมพันธ์ทางการค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ออสเตรเลีย ช่วยผลักดันมูลค่าการค้าให้ขยายตัวอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขการลงทุนของออสเตรเลียในไทยอาจยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ของไทย แต่เห็นศักยภาพในสาขาที่ออสเตรเลียเข้ามาลงทุน รวมถึงการที่ออสเตรเลียได้จัดทำยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพื่อมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2040 จึงใช้โอกาสนี้เชิญชวนออสเตรเลียขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) ของไทยเพิ่มขึ้น เช่น ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (Digital AI) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life-Science) เทคโนโลยีชีวภาพ (Bio-Tech) อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ยานยนต์สมัยใหม่ (Next–Generation Automotive) เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และสาขาพลังงานสะอาด ซึ่งออสเตรเลียแสดงความพร้อมที่จะผลักดันประเด็นนี้ร่วมกันต่อไป

ทั้งสองฝ่ายยังได้แสดงความยินดีที่ไทยและบริษัท อัคราฯ ของออสเตรเลีย สามารถยุติกรณีพิพาทได้ ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุน และยังเป็นการรักษาความสัมพันธ์ด้านการลงทุนระหว่างไทยและออสเตรเลียในระยะยาว โดยออสเตรเลียยังได้แสดงเจตจำนงค์ที่จะขยายการลงทุนในด้านนี้เพิ่มเติม และขอรับการสนับสนุนจากไทยในเรื่องนี้ พร้อมกันนี้ ออสเตรเลียได้ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์การนำเข้านมผงขาดมันเนยภายใต้ FTA ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้ดูแลภาพรวมของ FTA จะประสานงานและติดตามความคืบหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป

นางศุภจี กล่าวเสริมปิดท้ายว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยได้แสดงความพร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับออสเตรเลียในทุกระดับ พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ฝ่ายออสเตรเลียได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของไทย ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD และพร้อมสนับสนุนไทยในกระบวนการดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการค้าของไทยให้เทียบเท่าระดับสากล

สำหรับการค้าไทย-ออสเตรเลีย ในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 2568) ออสเตรเลียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 14,321.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้ดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 5,129.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 9,725.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่ไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 4,595.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น ก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนสาขาสำคัญของออสเตรเลียในไทย อาทิ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ การผลิตเครื่องจักรขั้นสูงและระบบ AI ควบคุมเครื่องจักร และในสาขาดิจิทัลซึ่งครอบคลุมถึงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center)

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

แบงก์ชาติ สั่งตรวจเข็ม ธุรกรรมเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ

แบงก์ชาติ ยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบธุรกรรมเงินตราต่างประเทศขาเข้า

สำนักงานสลากฯ เปิดเแผนปี 69 มุ่งเน้นช่วยสังคม

สำนักงานสลากฯ เปิดเแผนปี 69 ลดสลากใบเพิ่มดิจิทัล พร้อมมุ่งเน้นช่วยภาคสังคม

นายกฯ อนุทิน เผย ความสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา

นายกฯ อนุทิน เผย ความสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา ตอนนี้เอาเรื่องหยุดยิงก่อน ย้ำ แม้ให้คนชายแดนกลับบ้าน แต่ยังเฝ้าระวังอยู่ 

คลังขอ กกต. ตั้ง “ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์” เป็นผอ.ออมสิน

คลังส่งเรื่องขอ กกต. ตั้ง “ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์” เป็นผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่