นายกฯ ออกมาดุดัน ที่ไตรภาคีเคาะขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ 2-16 บาทต่อวัน บอกว่า ผมรับไม่ได้เพราะขึ้น 2 บาท ยังซื้อไข่ใบหนึ่งไม่ได้เลย
แล้วนายกฯ ก็กดดันให้ไตรภาคีไปคิดมาไหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเขายืนเหมือนเดิม
นอกจากขึ้นน้อยแล้ว ค่าแรงที่ปรับขึ้นแล้วที่ได้มากสุดยังแค่ 370 บาทต่อวัน ต่ำกว่าที่นายกฯ สัญญาไว้จะขึ้นค่าแรง 600 บาทภายใน 4 ปี โดยปีนี้ จะให้ได้ถึง 400 บาท
เมื่อฝันแรกโปะแตก ทำไม่ไม่ได้ตามสัญญา นายกฯ ก็หาทางลงว่าปีนี้จะปรับขึ้นค่าแรงอีก 2 รอบ เป็นการสร้างฝันรอบใหม่ กลบความล้มเหลวเอาตัวรอดไปก่อน
ขึ้นได้ไม่ได้ ต้องรอเวลาพิสูจน์ แต่วันนี้ที่ไม่ต้องพิสูจน์คือ การขึ้นค่าแรงซื้อไข่ใบหนึ่งไม่เลย เป็นเรื่องจริง และจริงมากขึ้นไปอีก เมื่อสมาคมผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่ ได้ประกาศขึ้นราคาไข่แซงหน้าการขึ้นค่าแรงของนายกฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยไข่ไก่คละไซด์หน้าฟาร์มเกษตรกร ปรับจากจากฟองละ 3.50 บาท เป็น ฟองละ 3.80 บาท หรือ ปรับเพิ่มขึ้นฟองละ 30 สตางค์ แผง 30 ฟองก็ขึ้น 9 บาท ทั้งขายปลีกและขายส่ง ดูเหมือนไม่มากแต่ราคาอย่างอื่นจะตามแพงมาตามไข่แน่นอน โดยเฉพาะข้าวแกงริมทาง ที่ต้องคู่กับไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่เจียว
นายกฯ บอกเป็นคนคิดเร็วทำงานๆ เร็ว ทุกคนเห็น แต่ที่ไม่ค่อยเห็นคิดเร็วทำเร็วและสำเร็จไหม เหมือนเรื่องการขึ้นค่าแรงที่นายกรับไม่ได้ ก็ยังต่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน
ส่วนคนหาเช้ากินค่ำก็รับไม่ได้เหมือนกันที่ราคาไข่ขึ้นแซงหน้าค่าแรงไปก่อน การให้กระทรวงพาณิชย์บอกมาแก้ไข ก็เหมือนวัวหายล้อมคอก การใช้มาตรการธงฟ้าไปขายของถูกเป็นย่อมๆ ก็เป็นยาสามัญประจำบ้านที่รักษาไข้อะไรไม่ได้แล้ว นอกจากสร้างภาพว่าทำแล้วนะ แก้แล้วนะ ช่วยแล้วนะ
แต่ไข่ก็ยังแพงแซงหน้าค่าแรง เหมือนที่นายกรับไม่ได้ต่อไปว่า ผมรับไม่ได้ขึ้นค่าแรงแค่นี้ซื้อไข่ฟองหนึ่งยังไม่ได้เลย