ผลการแข่งขันทีมชาติไทยนัดแรก เอาชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 ประเดิมเอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศการ์ตา เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
แน่นอนว่า ชัยชนะมาจากทีมงามและผู้เล่นที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อเรียกศรัธทาที่อยู่ในวาวะตกต่ำฟื้นคืนขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะเพียงนัดเดียว ยังเร็วเกินไปที่จะลิงโลด เพราะชัยชนะส่วนหนึ่งก็ต้องยอมว่าคู่แข่งของไทยเล่นไม่ดี มีความผิดพลาดเต็มไปหมดมากกว่าความผิดพลาดของไทย
แต่ที่น่าสนับสนุนของบอลทีมชาติไทย คือภาพซุ้มมานั่งของทีมชาติไทยในสนามแข่ง ที่จะเห็นโค้ชญี่ปุ่น และทีมงามและมีหน้าที่จริงๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมานานมาก
บรรยากาศซุ้มมานั่งบอลไทย จะเห็นโค้ชที่นิ่งมีสมาธิในเกมฟุตบอลอยู่ตลอดเวลา เห็นภาพการแก้เกมแม้กระทั้งเหลือเวลา 5 นาทีสุดท้าย แม้ว่าไทยจะนำอยู่ 2 ต่อ 0 แล้วก็ตาม
ขณะที่ผู้เล่นทั้งในและนอกสนามก็มีสมาธิอยู่กับเกม อยู่กับโค้ชและทีมงามที่คอยสั่งการแก้เกม ไม่ต้องสับสนเหมือนในอดีต ที่ซุ้มม้านั่งข้างสนามมีใครไม่รู้เต็มไปหมด จนโค้ชดูเหมือนเป็นแค่สต๊าฟ และคนที่ไม่น่าลงไปกลายเป็นใหญ่กว่าโค้ช นักบอลไทยก็เลยต้องเอาใจคนที่ไม่น่าลงไปมากกว่าที่จะมีสมาธิอยู่กับโค้ช
ว่ากันไปแล้วภาพซุ้มม้านั่งฟุตบอลที่ควรมีแต่โค้ชและทีมงานแบบนี้ของทีมชาติไทย ก็เป็นสากลของบอลของโลก แต่ที่ผ่านมากลับมาเห็นผลงานบอลไทยก็ไม่ได้ดี แต่วันนี้ผลงานกับดี
แต่อย่างที่บอกว่า ยังหวังอะไรได้ยาก เพราะโค้ชญี่ปุ้นและทีมงานนี้มีสัญญารอบแรกแค่ 3 เดือน หลังจากนั้นไม่รู้ว่าจะได้สัญญายาวแค่ไหนที่จะพัฒนาบอลไทยให้เป็นมืออาชีพทั้งระบบ ทั้งตัวนักฟุตอลและทีมงาน
ที่สำคัญภาพอย่างนี้ไม่ควรมีแต่ ทีมชาติไทยเท่านั้น แต่ควรมีในระดับบอลของไทยทุกๆ ระดับ เพราะทุกวันนี้เรายังเห็นเจ้าของทีมใหญ่ๆ ไปอยู่ในที่ไม่ควรอยู่ในสนามตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งหลายครั้งเป็นเขตที่ไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ แค่คนคุมเกมก็เอาหูไปนาเอาตาไปไล่ ปล่อยให้ผู้มีอธิพลฟุตบอลทำไรผิดๆ เป็นเรื่องปกติ ทำให้บอลไทยไม่เป็นมืออาชีพ
ไม่ว่ารายการนี้บอลไทยจะไปไกลแค่ไหน ไม่สำคัญว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นภาพซุ้มมานั่งทีมชาติไทยที่เป็นมืออาชีพมากขึ้นและควรเป็นแบบนี้มานานแล้ว
ลุ้นเอาใจช่วยกันต่อไปว่า จุดเริ่มต้นความเป็นมืออาชีพของบอลไทยนี้จะอยู่กับทีมชาติไทยและบอลไทยในทุกๆ ระดับ ไปได้นานขนาดไหน