เซลล์แมน โป๊ะแตก ต้องยกเครดิตทั้งหมด ให้ดร.คนนี้ ที่ท่านมีความรู้จริง ถึงจับได้ว่า ข้อมูลที่นายกโชว์บนเวทีพาไทยเป็นฮับการบินของภูมิภาค มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอยู่ไม่น้อย
ต้องขอตัดข้อความส่วนหนึ่ง ของ ดร. คนนี้ ที่เขียนไว้ในเฟสบุ๊กส่วนตัวของท่านว่า
“อนึ่ง ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ท่านนายกฯ เศรษฐา ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ท่านได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “10 ปีที่แล้ว 10 ปีที่แล้วนี่เองนะครับ สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินอันดับที่ 13 ของโลก” ในขณะที่ภาพด้านหลังของท่านมีข้อความว่า “สนามบินสุวรรณภูมิเคยเป็นลำดับที่ 13 ของโลกในปี 2548”
ทั้งคำพูดของท่านนายกฯ และข้อความด้านหลังท่านคลาดเคลื่อนและย้อนแย้งกัน กล่าวคือในส่วนของคำพูดของท่านนั้น 10 ปีที่แล้วคือปี 2557 สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในอันดับที่ 48 ไม่ใช่อันดับที่ 13
สนามบินสุวรรณภูมิได้อันดับที่ 13 ในปี 2554 ส่วนข้อความด้านหลังท่านที่เขียนว่าสนามบินสุวรรณภูมิเคยเป็นอันดับที่ 13 ของโลกในปี 2548 นั้น
ข้อเท็จจริงก็คือในปี 2548 สนามบินสุวรรณภูมิยังไม่เปิด มาเปิดในปี 2549”
การผิดเพี้ยนขนาดนี้ บอกได้ว่า จบข่าว งานที่ตัดเสียใหญ่โต หมดความน่าเชื่อถือไปทันที
เหตุการณ์ เซลล์แมนโป๊ะแตก ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นบ่อยจนนัยไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นโชว์วิสัยทัศน์แจกเงินเดือนข้าราชการเดือน ละ 2 ครั้ง ถูกต้านทั้งประเทศชั่วข้ามคืน จนต้องหาทางลงบอกว่าเป็นทางเลือกไม่ได้บังคับ วันนี้มีการให้เลือกแล้วแต่ไม่มีการเปิดเผยว่ามีข้าราชการกี่หยิบมือที่เปลี่ยนมารับเงินเดือน เดือนละ 2 ครั้ง
หรือ จะเป็นการแถลงใหญ่การแก้หนี้ในระบบ ที่นายกฯ รายยาวเป็นหางว่าว แต่พอถูกถามว่า ที่ท่านพูดมาครอบคลุมลูกหนี้กี่คน มูลหนี้เท่าไร เซลล์แมนถึงไปไม่เป็น จนที่ปรึกษาต้องออกหน้าช่วยแบบขอไปที่ว่ารวมหนี้ครัวเรือนทั้งหมด 16 ล้านล้านบาท ซึ่งก็น่าจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงข้อเท็จจริงเช่นกัน
หากย้อนไปก่อนหน้านั้น เซลล์แมน แถลงการแก้หนี้นอกระบบให้เป็นวาระแห่งชาติ บอกว่า ตัวเลขหนี้ในระบบมีอยู่ 5 หมื่นล้านบาท แต่ผมคิดว่าตัวเลขนี้น้อยไปน่าจะมากกว่า เมื่อพูดอย่างนี้ก็สร้างความไม่เชื่อมั่นว่า นายกฯ เซลล์แมน มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการทำนโยบายให้ไม่หลงทางหรือเปล่า
ที่โป๊ะแตกหมอไม่รักษา ก็เห็นจะหนี้ไม่พ้น แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ที่บอกว่าไม่กู้ครับ ไม่กู้ครับ แล้วก็มาแถลงใหญ่ออกกฎหมายกู้ทั้งก้อน เป็นหนังชีวิตเอาตัวไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้
การที่ประเทศมี เซลล์แมน โป๊ะแตก เช่นนี้ ยอมไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะการให้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้ให้ไม่มีใครเชื่อนโยบายที่คิดที่จะทำว่าจะเกิดดอกออกผลจริง
เศรษฐกิจไทยที่ตกอยู่ในข้อมูลเพี้ยนๆ แบบนี้ไปนานๆ เห็นที่จะเกิดวิกฤตศรัทธา นักลงทุนไม่มาใหม่ นักลงทุนเก่าก็จะหนี้ไปที่อื่น ที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่านี้