เพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า นายกฯ เซลล์แมน ในฐานะที่นั่งควบ รมว.คลัง ด้วย ผลงานสอบตก ซ่อมแล้วซ่อมอีกก็ไม่ผ่าน กลายเป็น ขุนคลัง หมดท่า
กระแสข่าว การปรับ คอ รอ มอ ที่เซลล์แมน เห็นท่าต้องโบกมือลาเก้าอี้นี้ เพื่อให้คนอื่นเข้ามาทำงานสานนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่อยู่ในอาการโคม่า เปลี่ยนตำรารักษามาหลายครั้งก็ยังปลุกชีพไม่ขึ้น
แค่ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ใช้เงิน 5 แสนล้านบาท อย่างเดียว ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า เซลล์แมน ไม่เหมาะนั่งเป็นขุนคลัง เพราะนอกจากดันนโยบายไม่ได้แล้ว ยังพบว่า เซลล์แมน ไม่ได้อย่างที่คุยไว้ ส่าผมหาเงินได้ ใช้เงินเป็น
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่บอกว่า จะไม่กู้ ก็ต้องมากู้ ถึงเปลี่ยนมาใช้เงินงบประมาณ กับแบงก์รัฐผสมกัน ก็คือการกู้อยู่ดีนั้นเอง นั้นบอกว่า เซลล์แมนหาเงินไม่ได้ หาเงินไม่เป็น เพราะตั้งแต่เข้ามาเป็นขุนคลัง ไม่เคยมีนโยบายการเก็บรายได้ การปรับโครงสร้างภาษีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ยิ่งการดันทุรัง เดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ที่หลาบฝ่ายออกมาท้วงติง ได้ไม่คุ้มเสีย เป็นภาระทางการคลังที่ต้องใช้กันอีกหลายสิบปี และมาตรการที่ออกมาเอื้อนายทุนใหญ่ แสดงให้เห็นว่า เซลล์แมนใช้เงินไม่เป็น แต่อยากจะใช้แบบออกนอกหน้านอกตา แบบใครเตือนข้าก็ไม่สน
จนสงสัยว่า มาตรการหนี้จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ หรือ จะพายุหมุดพัดเงินเข้ากระเป๋านายทุนกันแน่ รัฐบาลเซลล์แมนถึงได้ดันกันไม่กลัวผิดติดคุก ที่บทเรียนในอดีตก็มีให้เห็นกันมาแล้ว