จีนแชมป์ซื้อคอนโดไทย ปี 66

Date:

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาวการณ์ของหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2566 ที่ผ่านมามีสัดส่วนการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติมีการปรับเพิ่มขึ้นของสัดส่วนหน่วยและมูลค่าเมื่อเที่ยบกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งระบบ โดยเพิ่มเป็นร้อยละ 13.4 และ 24.0 ตามลำดับ จากร้อยละ 10.8 และ 20.5 ในปี 2565 โดย จีนแชมป์ซื้อคอนโดไทย มากสุด

หากพิจารณาดูจำนวนค่าเฉลี่ยของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในปี 2566 พบว่า อยู่ที่ประมาณ 3,600 หน่วยต่อไตรมาส โดยมีจำนวนหน่วยใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ที่มีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 3,300 หน่วยต่อไตรมาส แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่ดีและเริ่มเป็นปกติแล้ว 

ใน ปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติจำนวน 14,449 หน่วย และมีมูลค่าจำนวน 73,161 ล้านบาท หากพิจารณาลงไปในรายพื้นที่จังหวัด พบว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 41.1 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 38.0 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 79.0 และมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 85.4 ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ชลบุรีเพิ่งมีการขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปี 2566 ซึ่งมีความแตกต่างจากช่วงปี 2561 – 2565 ที่กรุงเทพมหานครเคยเป็นจังหวัดที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 

จีนแชมป์ซื้อคอนโดไทย ปี 66

ทั้งนี้ ผู้ซื้อสัญชาติ จีนแชมป์ซื้อคอนโดไทย ยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนร้อยละ 45.8 และ 46.7 ตามลำดับ ส่วนอันดับ 2 เป็นสัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วนร้อยละ 8.7 และ 6.1 ตามลำดับ ทั้งนี้ ผู้ซื้อจากสหรัฐอเมริกามีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นอันดับ 3 มีสัดส่วนร้อยละ 4.4 ขณะที่ผู้ซื้อจากพม่ามีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นอันดับ 3 มีสัดส่วนร้อยละ 5.1 นอกจากนี้ยังพบประเด็นที่น่าสนใจว่า ในไตรมาสนี้สัญชาติพม่ายังคงมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 6.6 ล้านบาท ในขณะที่สัญชาติสหราชอาณาจักรมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุดอยู่ที่ 56.5 ตารางเมตร 

จากข้อมูลที่พบในปี 2566 มีข้อสังเกตว่า ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสัญชาติจีนมีจำนวน 6,614 หน่วย คิดเป็น 45.8% และมีมูลค่า 34,132 ล้านบาท คิดเป็น 46.7% ของชาวต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของผู้ซื้อสัญชาติจีนในปี 2566 ดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ทั้งนี้เนื่องจากผู้ซื้อสัญชาติอื่นมีการซื้อห้องชุดจำนวนหน่วยที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน แม้ว่าผู้ซื้อสัญชาติจีนมีการซื้อในจำนวนหน่วยที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับในเรื่องขนาดและราคาห้องชุดเฉลี่ย ในปี 2566 พบว่า ห้องชุดที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ มีขนาดเฉลี่ย 45.6 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 5.1 ล้านบาท/หน่วย หรือประมาณตารางเมตรละ 110,981 บาท ทั้งนี้ สัญชาติที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด 10 ลำดับแรก ในปี 2566 พบว่า พม่าเป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนต่อหน่วยสูงสุด เฉลี่ย 6.6 ล้านบาทต่อหน่วย และสหราชอาณาจักรเป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 56.5 ตารางเมตร โดยชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 5.2 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.5 ตารางเมตร 

สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด ในปี 2566 พบว่า จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี มีจำนวน 5,935 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.1 และกรุงเทพฯ จำนวน 5,484 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.0 ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 79.0 ของทั่วประเทศ เมื่อพิจารณา พบว่า ในปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) ชลบุรีมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากกว่ากรุงเทพฯ แต่ถ้าพิจารณาย้อนกลับไปในช่วง ปี 2561 ถึง ปี 2565 กรุงเทพฯมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากกว่าชลบุรีมาโดยตลอด 

ในปี 2566 พบว่าจังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 5,484 หน่วย มูลค่า 44,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60.5 ของมูลค่าทั้งหมดและชลบุรี มีจำนวน 5,935 หน่วย มูลค่า 18,221 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.9 ของมูลค่าทั้งหมดตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 85.4 ของทั่วประเทศ เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2561 พบว่า กรุงเทพฯ และชลบุรี ยังคงเป็นจังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในสัดส่วนที่มากที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนอันดับรองลงมาเป็นจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ตและเชียงใหม่ เป็นต้น 

จากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด ทำให้เราเห็นได้ว่า ปริมาณทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้ว ทั้งนี้ มีข้อสังเกตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาได้มีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัว แอปฯ รับเงินสำหรับร้านค้ายุคดิจิทัล 

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัว ‘Merchant Pro’ แอปฯ รับเงินสำหรับร้านค้ายุคดิจิทัล สะดวกปลอดภัยเหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์อัดแน่นช่วยจัดการร้านค้า

ธนาคารไทยเครดิต ตอกย้ำพันธกิจสร้างสังคมไทย

ธนาคารไทยเครดิต ตอกย้ำพันธกิจสร้างสังคมไทยให้มีภูมิคุ้มกันทางการเงิน ผ่านค่ายเยาวชน "ตังค์โต Know-how Young Ambassador" 

ธนาคารกรุงเทพ ชวนแฟนคลับอินฟลูฯ ลุ้นรับบัตรฟรี!

ธนาคารกรุงเทพ ชวนแฟนคลับอินฟลูฯ ลุ้นรับบัตรฟรี! งาน “FU ME Fest 2” ผ่านกิจกรรม ‘Top Friends Get Friends’ ชวนเพื่อนสมัคร ‘โมบายแบงก์กิ้ง’

ทีทีบี คว้า 15 รางวัล 2025 Asia 

ทีทีบี คว้า 15 รางวัล 2025 Asia (ex-Japan/ANZ) Executive Team 3 ปีต่อเนื่อง สะท้อนความเป็นเลิศขององค์กรในทุกมิติ การันตีโดยการจัดอันดับจาก Extel