ออริจิ้น เปิดตัวแคมเปญ “ที่ดินแลกคอนโดใจกลาง CBD”

Date:

นายกฤษณ์ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้เปิดโอกาสการสร้างความร่วมมือกับเจ้าของที่ดิน (Landlord) ทั่วประเทศ ในการเข้ามาร่วมทุนกับบริษัท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและแบ่งปันผลตอบแทนร่วมกัน ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโมเดลใหม่ในการสร้างความร่วมมือกับ Landlord ภายใต้แคมเปญ “ที่ดินแลกคอนโดใจกลาง CBD” เปิดทางเจ้าของที่ดินทำเลศักยภาพทั่วประเทศ นำที่ดินมาแลกเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ นำร่องแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) โครงการระดับลักชัวรี ในทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) 5 ทำเล ได้แก่ พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, พญาไท, ราชเทวี และจุฬา-สามย่าน

“Pain Point ใหญ่ของ Landlord หลายรายคือ มีที่ดิน แต่ยังไม่สามารถทำให้เกิดรายได้ แถมยังก่อให้เกิดรายจ่ายจากภาษีที่ดินอย่างต่อเนื่อง เพราะตัว Landlord หากลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาจจะต้องเจอความเสี่ยง และใช้เงินลงทุนสูง การร่วมทุนเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับ Landlord ที่ยังคงต้องการเป็นเจ้าของที่ดินและเจ้าของธุรกิจ และในวันนี้เรามีข้อเสนอที่เป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ทันที โดยไม่ต้องรอการพัฒนา” นายกฤษณ์กล่าว

ทั้งนี้ แคมเปญนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์กับ Landlord 3 ข้อ ได้แก่ 1.ลดการเสียโอกาสจากการปล่อยที่ดินทิ้งร้าง 2.ลดภาระทางภาษี เนื่องจากภาษีสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่อยู่อาศัย รวมถึงคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน มีอัตราการจัดเก็บอยู่ที่ 0.02-0.10% ต่อปี ขึ้นกับมูลค่าของที่อยู่อาศัยนั้นๆ ขณะที่ภาษีที่ดินรกร้าง ที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์มีอัตราภาษีถึง 0.3-0.7% ต่อปี และเพิ่มอีก 0.3% ทุก 3 ปี 3.เพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมได้ เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมในย่าน CBD ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้เช่าอย่างมาก โดยมีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าที่คุ้มค่า อย่างเช่น โครงการพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ มีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า สูงถึง 5-7% และปัจจุบันมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในห้องพักภายใต้ Origin Investment Property Program (Origin IP Program) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 85%

นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงมีความสนใจที่ดินที่สามารถพัฒนาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มที่อยู่อาศัย อย่างคอนโดมิเนียมและบ้าน หรือโครงการที่สร้างรายได้ประจำ อย่าง โรงแรม และคลังสินค้า ขึ้นอยู่กับทำเล ขนาดของที่ดิน และความเหมาะสมอื่นๆ ทั้งนี้หากเป็นที่ดินที่อยู่ใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก บริษัทจะรับพิจารณาเป็นพิเศษ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

บิ๊ก CP ควงบอส GIP หารือนายกฯ 

นักลงทุนระดับโลกชื่มชมไทย บิ๊ก CP ควงบอส GIP หารือนายกฯ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน “ดาต้าเซ็นเตอร์” เชื่อมั่นไทย เบอร์ 1

“ธีระชัย” สับเก็บภาษีแวต ธุรกิจมีรายได้ต่ำ 1.8 ล้านบาท

“ธีระชัย” สับเก็บภาษีแวต ธุรกิจมีรายได้ต่ำ 1.8 ล้านบาท ชี้สกัดสร้างโอกาสธุรกิจหน้าใหม่ แนะ รมว.คลัง อย่าใช้หลักบัญชีคิดแก้ปัญหาเพิ่มเงินในหีบชาติ

บมจ.ไรเดอร์อินชัวรันส์โบรกเกอร์ คว้ารางวัล “TOP GROWTH” 

บมจ.ไรเดอร์อินชัวรันส์โบรกเกอร์ คว้ารางวัล “TOP GROWTH” จากบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

Kubix จับมือ D3 Labs ขยายช่องทางการลงทุนในโทเคน

Kubix จับมือ D3 Labs ประกาศความร่วมมือศึกษาการขยายช่องทางการลงทุนในโทเคนดิจิทัลสัญชาติไทยสู่ตลาดนักลงทุนต่างชาติ