
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง “ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล” พบว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 132.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 131.6 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากไตรมาสก่อน (QoQ) สะท้อนถึงแนวโน้มราคาบ้านจัดสรรที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เพราะจำนวนหน่วยเหลือขายในตลาดยังคงเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงเร่งระบายสินค้า โดยมีการปรับราคาขึ้นเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ขณะที่ส่วนใหญ่เลือกใช้กลยุทธ์มอบของสมนาคุณและโปรโมชันพิเศษ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อ แทนการปรับลดราคาขายโดยตรง
ขณะที่ทำเลของดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในกรุงเทพ ฯ มีการปรับราคาขึ้นมากที่สุด ในตลิ่งชัน-บางแค-ภาษีเจริญ-หนองแขม-ทวีวัฒนา ในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป และพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีการปรับราคาขึ้นมากที่สุด ในเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ส่วนของดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพ ฯ มีการปรับลดราคามากที่สุด ในบางเขน-สายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่ ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท และพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีการปรับลดราคามากที่สุด ในบางกรวย–บางใหญ่–บางบัวทอง–ไทรน้อย ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากเป็นการปรับลดราคาจากโครงการจัดสรรที่ยังใช้ต้นทุนเดิม ประกอบกับความต้องการกระตุ้นตลาดและเร่งการระบายสต๊อกที่อยู่อาศัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โดยจำแนกดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ พบว่า
– กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 132.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ)
– 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.4 ลดลงร้อยละ –1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลงร้อยละ -0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ)
สำหรับดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า
1. ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว มีค่าดัชนีเท่ากับ 137.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) แบ่งเป็น
– กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 135.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) พบว่า ทำเลที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ ตลิ่งชัน-บางแค-ภาษีเจริญ-หนองแขม-ทวีวัฒนา ในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป
– 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 138.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) (รายละเอียดตามตารางที่ 2 และแผนภูมิที่ 1 ถึง 3) โดยทำเลที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป
2. ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.0 ลดลงร้อยละ -1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) แบ่งเป็น
– กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.7 ลดลงร้อยละ -0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) โดยทำเลที่ปรับราคาลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ บางเขน-สายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่ ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท
– 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.2 ลดลงร้อยละ –3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลงร้อยละ -0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) โดยทำเลที่ลดราคามากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ บางกรวย–บางใหญ่–บางบัวทอง–ไทรน้อย ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท
สำหรับรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการให้ของสมนาคุณ เช่น ฟรีเครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ ค่าส่วนกลาง มิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟฟ้า ร้อยละ 38.2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 32.0 เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดเร่งระบายสต๊อก สำหรับการให้ส่วนลดฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ร้อยละ 31.6 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 34.0 เนื่องจากมีมาตรการการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลือประเภทละร้อยละ 0.01 และเป็นการให้ส่วนลดเงินสดร้อยละ 30.3 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 34.0