ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังทรุดตัวแรง

Date:

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง “ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทย ไตรมาส 2 ปี 2568” พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 74.6 จุด ลดลงร้อยละ -12.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวทั้งด้าน   อุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) ดัชนีกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เนื่องจากไตรมาส 2 ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือประเภทร้อยละ 0.01 สำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ครอบคลุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา มาตรการทั้งสองนี้ช่วยสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัวในไตรมาสนี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ดัชนีตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทย ในไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่า อยู่ที่ระดับ 74.6 ลดลงร้อยละ -12.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเป็นการลดลงทั้งในด้านของอุปสงค์และอุปทาน โดยด้านอุปสงค์ของที่อยู่อาศัย พบว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล ลดลงร้อยละ -16.2 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 เป็นผลมาจาก 2 มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือประเภท    ร้อยละ 0.01 และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ครอบคลุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา ในด้านอุปทาน พบว่า ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนอาคารชุดในกรุงเทพ ฯ และปริมณฑลลดลงร้อยละ -42.9 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการลดลง -12.9 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ปี 2568 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ภายใต้ 3 สถานการณ์ โดยในกรณีฐาน (Base Case) ดัชนีคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 79.0 จุด ลดลงร้อยละ -3.3 จากปี 2567 การปรับตัวลดลงเล็กน้อยนี้สะท้อนถึงภาวะตลาดที่ยังคงเผชิญแรงกดดันบางส่วน แต่ได้รับแรงพยุงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่มีทิศทางลดลง และนโยบายสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของประชาชน อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลในระดับสูงสุด เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวกลับมาขยายตัวต่อเนื่อง ดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 86.9 จุด หรือขยายตัวร้อยละ 6.4 ซึ่งถือเป็นกรณีดีที่สุด (Best Case) ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวแรงจากผลกระทบภายนอก อาทิ มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่กดดันรายได้ของ SMEs ลูกจ้าง และผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวจากปัญหาหน่วยเหลือขายสะสม การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กยังเผชิญความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนชำระหนี้หุ้นกู้และข้อจำกัดในการระดมทุน ตลอดจนการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ดัชนีอาจลดลงเหลือเพียง 71.2 จุด หรือติดลบร้อยละ -12.9 ซึ่งเป็นกรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) ของปี 2568

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ อนุทิน ประชุมครม.เศรษฐกิจ อนุมัติ “คนละครึ่ง”

นายกฯ อนุทิน ประชุมครม.เศรษฐกิจบ่ายวันจันทร์ อนุมัติ หลักการ “คนละครึ่ง” กันงบฯ 69 ไว้แล้ว กลางต.ค.ลงทะเบียนได้

AOT จัดกิจกรรมจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

AOT จัดกิจกรรมจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ปลูกต้นไม้ด้วยหัวใจ สร้างสังคมยั่งยืน

วิจัยกรุงศรี ห่วงฐานะการคลังอ่อนแอ กดดันเศรษฐกิจไทย

วิจัยกรุงศรี ห่วงฐานะการคลังอ่อนแอ กดดันเศรษฐกิจไทย เสี่ยงกับเครดิตประเทศ และภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯฉุดการส่งออกชะลอตัว

ธ.ก.ส. เข้าร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ธี่หยด 3

ธ.ก.ส. เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ 2025 และเปิดตัวภาพยนตร์ธี่หยด 3