นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า OR มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการสร้างความยั่งยืน โดยมีการนำประเด็นความยั่งยืนตามแนวทาง SDG ในแบบฉบับของ OR คือ S-Small โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D-Diversified โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ และ G-Green โอกาสเพื่อสังคมสะอาด มาผสมผสานกับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมทั้งนำเป้าหมาย OR 2030 Goals มาติดตามและทบทวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนถูกผนวกเข้าไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง OR ได้นำไปสู่การลงมือปฏิบัติจริง แบบ In Action ตั้งแต่กลยุทธ์ แผนปฏิบัติการและเป้าหมายธุรกิจจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น วิภาวดี 62 โครงการไทยเด็ด การพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ OR ได้รับการยอมรับให้เป็นต้นแบบในการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งในระดับสากลและระดับประเทศในปี 2566 โดยเป็นสมาชิกของ DJSI ที่มีผลคะแนนเป็นลำดับที่ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Retailing ได้รับรางวัล Best Sustainability Awards จาก SET Sustainability Awards 2023 และได้รับผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating 2023 ระดับสูงสุด AAA ถือเป็นความภาคภูมิใจและตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ OR เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตอย่างยั่งยืน เคียงข้างชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG ทั้ง 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองเรื่องของ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดี
ในโอกาสนี้ ผู้บริหาร OR ยังได้ร่วมบอกเล่าตัวอย่าง “ความสำเร็จ” ผ่านการ “ลงมือทำ” ในทั้ง 3 มิติของ ESG ได้แก่
ด้านสิ่งแวดล้อม (E – Environment)
นายวิศน สุนทราจารย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน เปิดเผยว่า OR มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ตามหลักการ TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามหลักการ SBTi (Science Based Target Initiatives) และกำหนดกลยุทธ์ 3R ได้แก่ Reduce Remove และ Reinforce เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050 ด้าน นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน กล่าวว่า OR ได้ปรับรูปแบบของสถานีบริการน้ำมันเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไม่ว่าจะเป็นการขยายเครือข่าย EV Station PluZ รวมไปถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนในสถานีบริการน้ำมัน มุ่งเน้นการสร้าง “Green Station” โดยมีต้นแบบคือ พีทีที สเตชั่น วิภาวดี 62
ด้านสังคม (S – Social)
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ ยกตัวอย่าง คาเฟ่ อเมซอน ที่ได้ผนวกแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมเข้าไปในการดำเนินธุรกิจ จากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเมล็ดกาแฟ ที่ส่งเสริมการปลูกกาแฟและรับซื้ออย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกร การดูแลชุมชนรอบโรงงานให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายอาหารให้กับพนักงาน และร้าน “Café Amazon for Chance” ที่ช่วยสร้างอาชีพให้กับผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง มุ่งจะเป็น “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” นอกจากนี้ นายโกสัลล์ ลิมอักษร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านศักยภาพองค์กร ให้มุมมองว่า การสร้างความยั่งยืนในองค์กรนั้น “คน” เป็นปัจจัยสำคัญ OR จึงปลูกฝัง OR DNA ให้กับพนักงานทุกคน พร้อมทั้งใช้ OR Academy ในการสร้างเสริมศักยภาพทั้งในการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืนให้กับพนักงาน ไปจนถึงพันธมิตรทางธุรกิจ
ด้านการกำกับดูแลที่ดี (G – Governance & Economics)
นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการโครงการ ORion
กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจและการสร้างนวัตกรรมในแบบฉบับของ OR ซึ่งมุ่งสู่การทำธุรกิจที่สามารถแก้ไขปัญหาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป โดยมีแอปพลิเคชัน xplORe ซึ่งถือเป็น Digital Platform หลักของ OR ในการขับเคลื่อนให้ OR เติบโตสู่ธุรกิจทั้งในอุตสาหกรรมเดิมและกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคตผ่านการทำ O2O (Online to Offline) รวมถึงการสนับสนุน SMEs ให้เติบโตร่วมกัน ด้าน นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน ให้มุมมองว่าทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยจะถูกหยิบยกมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาลงทุน ทั้งในส่วนของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน รวมถึงสถาบันการเงิน ผู้ให้กู้ จนถึงการคัดเลือกคู่ค้าในการทำธุรกิจ ดังนั้นบริษัทที่ให้ความสำคัญหรือมีผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่น จะเป็นที่ยอมรับ ได้โอกาสในการร่วมทำธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและในการสร้างผลตอบแทนที่ดี รวมทั้งในเรื่องการมุ่งเน้นการกำกับกิจการที่ดี ก็เป็นอีกส่วนที่ OR ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมการจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงานแบ่งออกเป็น 3 ด้านได้แก่ บูธด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) บูธเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และบูธการดำเนินงานเพื่อสังคม เพื่อบอกเล่าเรื่องราว การลงมือทำจริงของ OR ที่สะท้อนการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลที่ดี ไปพร้อมกับการให้ความสำคัญและใส่ใจสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
งาน OR Sustainability: SDG In Action จัด ณ Synergy Hall ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (Energy Complex) โดยคำนึงถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมภายใต้รูปแบบรักษ์โลกโดยดำเนินการตามเกณฑ์โครงการ “Care the Bear” ลดโลกร้อน ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และยังเป็นการจัดงานในรูปแบบคาร์บอนนิวทรัล อีเว้นท์ (Carbon Neutral Event) ตามหลักเกณฑ์ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งจะมีการนำคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกมาชดเชยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากกิจกรรมในการจัดงานอีเว้นท์อีกด้วย