Krungthai COMPASS ประเมินว่า กลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการราคาคาร์บอนของประเทศคู่ค้า และเป็นการกระตุ้นการปรับตัวของภาคส่วนต่างๆ เพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ภายในปีงบฯ 68 ไทยจะเริ่มเก็บภาษีคาร์บอนจากน้ำมัน ซึ่งเมื่อประเมินเบื้องต้นในกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการเหล็ก พบว่าภาษีคาร์บอนของไทยมีสัดส่วนเพียง 0.5-0.8% เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย CBAM Certification และยังคงต้องรอความชัดเจนว่าจะสามารถนำไปหักออกจากค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี นับเป็นจุดเริ่มต้นให้ภาคธุรกิจเร่งปรับตัวให้พร้อมรับกับมาตรการราคาคาร์บอนที่จะทวีความเข้มข้นขึ้นในอนาคต
Krungthai COMPASS แนะนำผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ขนส่ง การผลิตและการก่อสร้าง ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ควรเร่งจัดทำข้อมูลและติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเอง ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ
ต้องติดตามมาตรการสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ด้านภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจ ขณะเดียวกัน ควรกำหนดนโยบายราคาคาร์บอนให้สอดคล้องกับต่างประเทศ ทั้งในแง่ของมาตรฐานและกรอบเวลา พร้อมกับพัฒนาระบบติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ