เจาะลึก Thailand Taxonomy ระยะที่ 2

Date:

Krungthai COMPASS ประเมินว่า Thailand Taxonomy ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นจากสาธารณะ ครอบคลุมกิจกรรมในภาคเกษตร อุตสาหกรรมการผลิต อาคารและอสังหาริมทรัพย์ และการจัดการของเสีย ที่มีการปล่อย GHG ราว 29% ของการปล่อยทั้งหมดของไทยในแต่ละปี โดยรวมแล้วจะทำให้ Thailand Taxonomy ครอบคลุมกิจกรรมที่ปล่อย GHG ของไทยมากถึง 95%

กิจกรรมที่ปล่อย GHG สูงอย่างการปลูกข้าว อาคารและอสังหา-ริมทรัพย์ และการผลิตซีเมนต์ นับว่ามีความท้าทายสูงในการปรับตัวตามมาตรฐานกิจกรรมสีเขียว โดยการปลูกข้าวมีความท้าทายจากการที่ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดเป็นรายย่อยที่มีข้อจำกัดในการปรับตัวขณะที่การผลิตซีเมนต์มีความท้าทายในการลงทุนเทคโนโลยีสะอาดที่มีราคาแพง ขณะที่ภาคอาคารและอสังหาริมทรัพย์ เผชิญกับความท้าทายจากทั้ง 2 ปัจจัยในระดับที่รองลงมา

แม้ Thailand Taxonomy จะเป็นมาตรฐานภาคสมัครใจ แต่ Krungthai COMPASS แนะนำผู้ประกอบการควรศึกษาแนวทางดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานกิจกรรมสีเขียว เพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและการเข้าถึงเงินทุนในอนาคต โดยที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผ่านกลไกต่างๆ

อาทิ สนับสนุนทางการเงิน ออกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด สร้างความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านเทคโนโลยี และต้องให้การสนับสนุนกลุ่มเปราะบางอย่าง SME ในทุกมิติ สำหรับภาคการเงินควรนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน โดยเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กบข. ส่งมอบสิ่งของจำเป็น ช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

กบข. ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นแก่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายกฯ อนุทิน เมินเจรจากัมพูชา ชี้ ไม่ใช่เวลาพูดคุย

นายกฯ อนุทิน เผยกัมพูชายังไม่ติดต่อขอเจรจา ชี้ ไม่ใช่เวลาพูดคุย บอกยังไม่ขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เหตุกองทัพยังคุมสถานการณ์ได้

นายกฯ อนุทิน เตรียมร่างพรฎ.ยุบสภา รอไว้แล้ว

นายกฯ อนุทิน เตรียมร่างพรฎ.ยุบสภา รอไว้แล้ว แต่ยุบหรือไม่ต้องประเมินสถานการณ์ หวังแก้รัฐธรรมนูญเดินถึงวาระ 3 ตามข้อตกลงเอ็มโอเอ

แพลตฟอร์มดิจิทัล กุญแจใหม่ ยกระดับนโยบายและบริการสาธารณะอาเซียน

เปิดผลการศึกษาแพลตฟอร์มดิจิทัลอาเซียน ชี้เป็นกุญแจใหม่ สู่การยกระดับนโยบายและบริการสาธารณะ