ส.อ.ท. เดินหน้าโครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5”

Date:

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และบริษัทสมาชิกร่วมแถลงข่าวการดำเนิน “โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5 ครั้งที่ 6” เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยค่ายรถยนต์ร่วมใจให้ส่วนลดค่าบำรุงรักษา เพื่อลดควันดำสำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินในพื้นที่ทั่วประเทศสูงสุดนาน 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีศูนย์บริการจากค่ายรถยนต์พร้อมให้บริการกว่า 1,463  แห่ง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า “ส.อ.ท. ตระหนักถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 มาโดยตลอด ดังนั้น ภายใต้นโยบาย One FTI จึงได้มีการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Go Green ให้ครบวงจรการดำเนินธุรกิจ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ตั้งแต่ลดการรับซื้อวัตถุดิบการเกษตรที่มาจากการเผา ให้ความร่วมมือในการเฝ้าตรวจวัดมลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกจากกระบวนการผลิต และควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงงานที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น บำรุงรักษาเครื่องจักรและรถยนต์ขนส่งพนักงาน และผลักดันให้สมาชิกโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินงานตามแนวทางโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้ธุรกิจใช้พลังงานหมุนเวียนในองค์กร ซึ่งจะเป็นกลไกลเชิงรุกในการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน”

นอกเหนือจากภาคการผลิตที่กล่าวมาข้างต้น  ส.อ.ท. ให้ความสำคัญกับปัญหา PM2.5 จากภาคขนส่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ที่มีสัดส่วนกว่า 50% ซึ่งมาจากรถยนต์บรรทุกที่ขนส่งสินค้าและรถโดยสารประจำทาง ที่ขาดการตรวจสภาพและดูแลเครื่องยนต์ให้มีความพร้อมในการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ ส.อ.ท. จึงได้ให้สมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ดำเนินโครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งดำเนินมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ผ่านการให้ส่วนลดกับผู้ใช้รถยนต์เข้าศูนย์บริการ เพื่อบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM2.5 

นางสาวยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า  “จากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนิน “โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” 5 ครั้งที่ผ่านมานั้น ภาคเอกชนได้ร่วมกันให้ส่วนลดในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่หมดระยะเวลาการรับประกันกว่า 600,000 คัน ซึ่งสามารถคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงินที่บริษัทสมาชิกสนับสนุนงบประมาณการดำเนินโครงการฯ มากกว่า 115 ล้านบาท”

สำหรับการดำเนินโครงการบำรุงรักษารถ ลดฝุ่น PM 2.5 ครั้งที่ 6 ในปีนี้ มีสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 9 บริษัท สนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาเพื่อลดควันดำ อาทิ การตรวจสอบสภาพฟรี ส่วนลดน้ำมันเครื่อง ค่าแรง และค่าอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินเก่าในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งมีบางบริษัทดำเนินโครงการฯ จนถึงเดือนมีนาคม 2568 โดยจะมีศูนย์บริการจากค่ายรถยนต์เข้าร่วมกว่า 1,463 แห่ง ในช่วงเวลา 6 เดือน สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถประสานและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการของค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรม เล็งเห็นว่าแนวทางการสนับสนุนให้ประชาชนมีการบำรุงรักษารถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์เก่า จะเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ของรถยนต์ และลดผลกระทบที่จะทำให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังผลักดันให้เกิดการพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษ และเตรียมพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สอดคล้องกับทิศทางของโลก ผนวกกับการส่งเสริมการลดผลกระทบเชิงลบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ เกิดจากปัจจัย 3 อย่าง คือ รถยนต์ การเผาชีวมวล และสภาพอากาศที่ปิด หากเราช่วยกันแก้ปัญหาฝุ่นจากรถยนต์จะสามารถลดปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ ได้มาก ปีที่ผ่านมามีการจับรถควันดำกว่า 2,000 คันจาก 200,000 คัน แต่กลับพบว่าแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ได้มาก วิธีที่ดีที่สุด คือ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่และไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ดีเซลเก่า แต่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไม่เปลี่ยนไส้กรองและน้ำมันเครื่องตามกำหนด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SMEs จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในวันนี้ที่หน่วยงานภาครัฐร่วมกับเอกชน จัดแคมเปญขึ้นเป็นนาทีทอง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2568 จะได้ส่วนลดพิเศษ เพื่อเป็นแรงจูงใจและสร้างความภาคภูมิใจว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมลดปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ เพื่อให้ทุกคนหันมาแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ร่วมกัน ซึ่งกทม.ตั้งเป้าหมายไว้ 500,000 คัน

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังได้ทำการทดสอบการปล่อย PM2.5 จากยานยนต์จำลองดีเซลยูโร 3 ที่ผ่านการตรวจควันดำแล้ว ณ โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) เขตทุ่งครุ โดยมีการตั้งข้อสังเกตระหว่างยานยนต์ที่ไม่มีการบำรุงรักษา และยานยนต์ที่มีการบำรุงรักษา โดยการเปลี่ยนไส้กรองรถยนต์และน้ำมันเครื่องในห้องขนาดพื้นที่ 50 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลการทดสอบพบว่า ยานยนต์ที่มีการบำรุงรักษาโดยการเปลี่ยนไส้กรองรถยนต์และน้ำมันเครื่อง สามารถลดการปลดปล่อย PM2.5 ได้ถึง 50% และช่วยยืดอายุการใช้

งานรถยนต์ได้อีกด้วย ซึ่งกรุงเทพมหานคร ได้กำหนดให้รถยนต์ส่วนบุคคลของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และรถราชการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนสิ้นปี 2567

“ขอเชิญชวนให้ทุกคนเข้าร่วมแคมเปญนี้ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของรถยนต์ดีขึ้น และขอให้ทุกคนร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งกทม.จะเร่งดำเนินการให้คนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านรถ Feeder และทางเดินเท้า เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะ” นายชัชชาติ กล่าว

รายชื่อบริษัทและรายละเอียดส่วนลดค่าบำรุงรักษาเพื่อลดควันดำ (ตามช่วงอายุของรถยนต์)

สำหรับโครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5 ครั้งที่ 6

1.  บจก.ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ 

–  อายุรถยนต์มากกว่า 20 ปี : ตรวจเช็คสภาพฟรี 30 รายการ สำหรับรถปิกอัพและรถอเนกประสงค์ และตรวจเช็คสภาพฟรี 50 รายการ สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ ส่วนลดค่าแรง 50% และส่วนลดค่าอะไหล่ 50% 

–  อายุรถยนต์ 15-20 ปี : ตรวจเช็คสภาพฟรี 30 รายการ สำหรับรถปิกอัพและรถอเนกประสงค์ และตรวจเช็คสภาพฟรี 50 รายการ สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ ส่วนลดค่าแรง 30% และส่วนลดค่าอะไหล่ 30%

หมายเหตุ : 

อะไหล่ : ไส้กรองอากาศ, ไส้กรองน้ำมันดีเซล, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง

ระยะเวลา : 15 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : 334 แห่ง

2.  บจก.มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)

–  อายุรถยนต์มากกว่า 15 ปี : ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 20% ตรวจเช็คสภาพฟรี 22 รายการ ส่วนลดค่าแรง 20% และส่วนลดค่าอะไหล่ 20%

หมายเหตุ :  

อะไหล่ : ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง,ไส้กรองน้ำมันเครื่อง/น้ำยาล้างเครื่องยนต์/น้ำมันเครื่อง/น้ำยาล้างหัวฉีด

ระยะเวลา : ธันวาคม 2567 – กุมภาพันธ์ 2568

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : มากกว่า 180 แห่ง

3.  บจก.ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

–  อายุรถยนต์มากกว่า 7 ปี : ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 15% ส่วนลดค่าอะไหล่ 15%

หมายเหตุ : 

อะไหล่: น้ำมันเครื่องเกรดมาตรฐาน, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, แหวนรอง

ระยะเวลา : 1 ธันวาคม 2567  – 28 กุมภาพันธ์ 2568  

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : 92 แห่ง

4.  บจก.นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) 

–  หลังเช็คระยะครั้งแรกเป็นต้นไปโดยไม่จำกัดอายุรถ : ส่วนลด 15% สำหรับแพคเกจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง SAVE SAFE Red, และ 25% สำหรับ SAVE SAFE Black, ตรวจเช็คสภาพฟรี 28 รายการ 

–  อะไหล่ : แหวนรองและไส้กรองน้ำมันเครื่อง

หมายเหตุ :  เป็นแพคเกจส่วนลดที่ประกอบไปด้วยอะไหล่ 3 รายการ (น้ำมันเครื่อง, แหวนรอง, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง) 

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

5.  บจก.โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย 

–  เคมเปญเช็คระยะ : อายุรถยนต์มากกว่า 5 ปี ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 15% ตรวจเช็คสภาพฟรี 33 รายการ ส่วนลดค่าอะไหล่ 15% 

–  ECO PACK : อายุรถยนต์มากกว่า 5 ปี ส่วนลดน้ำมันเครื่องมากกว่า 20% ตรวจเช็คสภาพฟรี 38 รายการ ค่าแรง 55% ส่วนลดค่าอะไหล่ 50% 

หมายเหตุ :

เคมเปญเช็คระยะ : ระยะเวลา : 1 ตุลาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567

จำนวนศูนย์บริการ : 450 แห่ง

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

รุ่นรถที่ได้รับส่วนลด : ทุกรุ่น ยกเว้น Lexus

ECO PACK :

ระยะเวลา : 1 มกราคม 2568 – 31 มีนาคม 2568

จำนวนศูนย์บริการ : 376 แห่ง

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

รุ่นรถที่ได้รับส่วนลด : Hilux, Fortuner, Hiace, และ Commuter

6.  บจก. ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

–  อายุรถมากกว่า 10 ปี ตรวจเช็คสภาพฟรี 25 รายการ ส่วนลดไส้กรองน้ำมันเครื่อง 20% ส่วนลดแผ่นกรองอากาศ 10%

หมายเหตุ :

ระยะเวลา 1 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : 223 แห่ง

7.  บจก.มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)

–  อายุรถมากกว่า 15 ปี ตรวจเช็คสภาพฟรี 20 รายการ (กรณีบำรุงรักษาตามรายการมาตรฐาน) ส่วนลดค่าแรง 50%

หมายเหตุ :   เฉพาะรถยนต์ดีเซลเท่านั้น

ระยะเวลา 1 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : 91 แห่ง

8.  บจก. ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย)

–  อายุรถยนต์มากกว่า 5 ปี : ตรวจเช็คสภาพฟรี 33 รายการ ส่วนลดค่าแรง 50% และส่วนลดค่าอะไหล่ 20% 

–  อายุรถยนต์ 2-5 ปี  :ตรวจเช็คสภาพฟรี 33 รายการ 

–  อายุรถยนต์มากกว่า 2 ปี : ตรวจเช็คสภาพฟรี 33 รายการ ค่าแรงฟรีเฉพาะค่าเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ฟรีเฉพาะไส้กรองน้ำมันเครื่อง

หมายเหตุ :  

1. ตรวจเช็คฟรี 33 รายการสำหรับรถที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปสามารถตรวจได้ 1 ครั้ง/ปี

2. ส่วนลดค่าแรง 50% สำหรับ รถอายุมากกว่า 5 ปี (Hino Welcome Home Campaign)

3. ส่วนลดอะไหล่ 20% (ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง, ไส้กรองอากาศ, ไส้กรองน้ำมันเกียร์, ไส้กรองเฟืองท้าย) หรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป

•  ระยะเวลา พฤศจิกายน 2567 – มีนาคม 2568 

•  พื้นที่การสนับสนุน: พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล, ภาคกลาง, ภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคตะวันออก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เฉพาะตัวแทนฯที่ร่วมรายการเท่านั้น)

•  จำนวนศูนย์บริการ: 55 แห่ง (ตัวแทนฯ ที่เข้าร่วมรายการ)

9.  บจก.ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย)

–  อายุรถยนต์มากกว่า 15 ปี : ส่วนลดน้ำมันเครื่อง 40% ตรวจเช็คฟรี 30 รายการ ส่วนลดค่าแรง 40% และส่วนลดค่าอะไหล่ 40% 

หมายเหตุ : 

อะไหล่: น้ำมันเครื่องยนต์ ไส้กรองน้ำมันเครื่องและแหวนรอง ไส้กรองอากาศ

ระยะเวลา 15 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 

พื้นที่การสนับสนุน : ทั่วประเทศ

จำนวนศูนย์บริการ : 180  แห่ง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“ศิริกัญญา” ซัด ศึกษาปรับโครงสร้างภาษีให้ดีก่อนพูด

“ศิริกัญญา” ออกโรงซัด  ศึกษาปรับโครงสร้างภาษีให้ดีก่อนพูด เเราะสร้างความเหลื่อมล้ำคนจนรวยมากขึ้น

แบงก์ชาติ เตือนเศรษฐกิจไทยปี 68 ไม่แน่นอนสูง

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เตือนว่าเศรษฐกิจปี 68 ไม่แน่นอนสูง ธปท. เน้นดำเนินนโยบายการเงินแบบยืดหยุ่น รองรับได้หลายหลายสถานการณ์

ธอส. มอบถุงยังชีพ และผ้าห่ม 

ธอส. มอบถุงยังชีพ และผ้าห่ม บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย ณ ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

กสิกรไทย คาดจีดีพีไทย 2568 โตช้า 2.4% 

กสิกรไทย คาดจีดีพีปี 2568 โตช้าลงมาที่ 2.4% ตามแรงส่งท่องเที่ยวและส่งออกที่ลดลง