
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การสนับสนุน จัดการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14 (14th Thailand Oil and Chemical Spill Response Exercise: TOC EX 14) จัดโดย กรมเจ้าท่า ร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค1) กองทัพเรือ สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้แทนจากภาคชุมชน ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าร่วม ระหว่างวันที่ 20 – 22 พฤษภาคม 2568 ณ ห้อง Auditorium บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
การฝึกซ้อมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อซ้อมแผนการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำตลอดจนการฝึกซ้อมใน ที่บังคับการ (Tabletop Exercise) ให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญตลอดจนทำให้เกิดความสามารถในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันทำให้เกิดการประสานงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการรักษาความมั่นคงทางทะเลและศักยภาพในการเดินเรือได้อย่างยั่งยืน
ไทยออยล์ ในฐานะภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางทะเล ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านทรัพยากร บุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงการบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับความสามารถในการรับมือเหตุการณ์มลพิษทางน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ ไทยออยล์พร้อมเคียงข้างทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางทะเล และร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ต่อไป

เกี่ยวกับ ไทยออยล์
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence)โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่น ชั้นนำ(Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดและธุรกิจ New S-Curve