
ในวันดินโลกประจำปีพ.ศ. 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เน้นความสำคัญของการฟื้นฟูดินในเมืองภายใต้แนวคิด “ดินที่สมบูรณ์ สู่เมืองที่สมดุล เกื้อกูลชีวิต”
เมืองต่างๆ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชียและแปซิฟิกควรปกป้องและฟื้นฟูดินให้มีสุขภาพดีเพราะได้รับแรงกดดันจากสภาพภูมิอากาศ พื้นที่สีเขียวที่ลดลง มลพิษเพิ่มสูงขึ้น และสภาพดินเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบัน สวน ที่ดิน หรือสวนดาดฟ้าในเมืองที่มีการดูแลดินให้ดีสามารถผลิตอาหารเกษตรกรรม เช่นผัก พืชตระกูลถั่ว และพืชหัวใต้ดินได้มากถึงร้อยละ 10 ของอาหารเกษตรกรรมที่ผลิตได้ทั่วโลก ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ นอกจากนั้นดินที่ดีในพื้นที่เมืองเช่นสวนสาธารณะยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับความหลากหลายทางชีวภาพ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก
เนื่องจากเมืองต่างๆทั่วโลกสร้างขยะประมาณร้อยละ 70 ของขยะทั้งหมด การปรับปรุงวิธีจัดการขยะในเมืองจะส่งผลต่อคุณภาพดินโดยตรง เมื่อวัสดุอินทรีย์ถูกแยกและแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก ถ่านชีวภาพ หรือขยะชีวภาพแล้วนำไปปลูกพืชยืนต้น หรือสวนในเมือง จะช่วยคืนสารอาหารกลับสู่ดินในพื้นที่เมือง ทำให้ดินในเมืองอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่งเสริมการทำเกษตรในเมือง ขยายพื้นที่สีเขียว และเพิ่มความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศของเมืองได้
ในวันดินโลกประจำปีพ.ศ. 2568 เอฟเอโอจึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อปกป้องและฟื้นฟูดินในเมือง เนื่องจากประชากรเมืองในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกกำลังเติบโต โดยคาดการณ์ว่าจะมีจำนวน 3.5 พันล้านคนภายในปี พ.ศ. 2593
การเฉลิมฉลองวันดินโลกในปีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากตรงกับวาระครบรอบ 80 ปี และความร่วมมือ 8 ทศวรรษของเอฟเอโอ ภายใต้ซึ่งมีแนวคิด “สี่สิ่งที่ดีกว่า” ได้แก่ การผลิตที่ดีขึ้น โภชนาการที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทูตพิเศษของเอฟเอโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเฉลิมฉลองวันดินโลกปี 2568 ณ กรมพัฒนาที่ดิน กรุงเทพฯ
พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “ทรัพยากรดิน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเมือง ดินดีจะช่วยดูดซับและกักเก็บคาร์บอน ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและภัยพิบัติ อีกทั้งยังสามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยและเพียงพอสำหรับประชาชน การดูแลรักษาดินจึงเป็นการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนเมืองไปพร้อมกัน จึงต้องมีการจัดการอย่างรอบคอบ ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง การส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างหรือพื้นที่ที่หน้าดินถูกปิดทับให้กลับมาเป็นพื้นดินที่มีชีวิต เช่น สวนสาธารณะ สวนบนหลังคา และแปลงปลูกผักชุมชน การพัฒนาระบบการก่อสร้างด้วยวัสดุที่ช่วยให้น้ำซึมลงดินอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการลดการปนเปื้อนและการเสื่อมโทรมของดินจากกิจกรรมการใช้ประโยชน์ที่ไม่เหมาะสม โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เมืองมีความน่าอยู่ และเติบโตอย่างสมดุล เป็นรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป”

นายอาลู โดฮง ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่และผู้แทนเอฟเอโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวในการเปิดงานว่า “เมืองที่กำลังขยายตัวในเอเชียและแปซิฟิกกำลังปกคลุมพื้นที่เกษตรกรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบอาหารและระบบนิเวศอ่อนแอลง และลดทอนความสามารถในการปรับตัวของเมืองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยและคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค ดินที่มีสุขภาพดีเป็นรากฐานของระบบอาหารที่มีความยืดหยุ่น ผู้คนที่มีสุขภาพดีขึ้น และภูมิทัศน์ชนบทและสภาพแวดล้อมในเมืองที่เขียวขจีขึ้น”
ในนามของเอฟเอโอ นายโดฮง ได้เชิดชูเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจของเอฟเอโอในการริเริ่มเฉลิมฉลองวันดินโลก นอกจากนี้ยังแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เมื่อพ.ศ. 2522 เอฟเอโอได้พระราชทานเหรียญเซเรสแก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในชนบท คำจารึกบนเหรียญรางวัลว่า “การให้โดยไม่แบ่งแยกชนชั้น” สะท้อนให้เห็นถึงคุณูปการอันยาวนานของพระองค์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
ในวันดินโลกประจำปีนี้ เอฟเอโอร่วมกับสหพันธรัฐรัสเซียมอบรางวัล Glinka World Soil Prize อันทรงเกียรติ ให้แก่ศาสตราจารย์ Ganlin Zhang จาก Institute of Soil Science ในการกำกับของ Chinese Academy of Sciences สำหรับผลงานด้านการจัดการดินและระบบสารสนเทศดินเพื่อแนวทางแห่งความยั่งยืน และร่วมกับประเทศไทยมอบรางวัล King Bhumibol World Soil Day Award ประจำปี 2568 ให้แก่ French Association for Soil Studies สำหรับการระดมกำลังประชาชน โรงเรียน และสถาบันหลายพันแห่งทั่วฝรั่งเศสเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการปกป้องดิน
เอฟเอโอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆใช้ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพิ่มขึ้นสำหรับวางแผนการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน และการฟื้นฟูดิน รวมถึงการฟื้นฟูดินในเมืองที่ถูกปิดทับ ประเด็นนี้ได้รับการเน้นย้ำในการประชุมวิชาการระดับโลกเกี่ยวกับการปิดทับดินและดินในเมืองที่จักโดยเอฟเอโอเมื่อเร็วๆนี้ คู่มือการประเมินและติดตามสุขภาพดินแห่งเอเชียและแปซิฟิกประจำปี 2568 ที่เอฟเอโอกำลังจะเปิดตัวจะนำเสนอวิธีการแก้ไข และตัวชี้วัดเพื่อช่วยให้รัฐบาลของประเทศต่างๆประเมินสภาพดินและตัดสินใจบนหลักฐานเชิงประจักษ์
นอกจากนี้รายงาน State of Land and Water Resources ประจำปี 2568 และ State of Food and Agriculture ประจำปี 2568 ของเอฟเอโอได้ตอกย้ำความสำคัญเหล่านี้ว่าการฟื้นฟูและการปกป้องดิน ที่ดิน และแหล่งน้ำเป็นหัวใจสำคัญของระบบเกษตรและอาหารที่มีความมั่นคงและยั่งยืน และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชากรโลกที่กำลังเติบโต




