ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์กองทุนยั่งยืน ลดความเสี่ยงจากการฟอกเขียว

Date:

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับ กองทุนรวม SRI* (Sustainable and Responsible Investing Fund) เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแล เพิ่มความโปร่งใส ลดความเสี่ยงจากการฟอกเขียว (greenwashing) และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน โดยคาดหวังการเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการลงทุนอย่างยั่งยืน และสนับสนุนการเติบโตของตลาดทุนไทยในระยะยาว ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

การปรับปรุงครั้งนี้ ก.ล.ต. มุ่งเน้นให้กองทุนรวม SRI กำหนดวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน (sustainability objective) ที่ชัดเจน พร้อมยกระดับมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลตลอดกระบวนการลงทุน ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์ การบริหารจัดการ ไปจนถึงการติดตามตรวจสอบผลลัพธ์ เพื่อสนับสนุนให้กองทุนรวม SRI เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนของตลาดทุนไทยและขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดฉบับที่ 2 (NDC 3.0)

ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศ จำนวน 2 ครั้ง ในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 โดยผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการปรับปรุง และเสนอให้ปรับถ้อยคำให้ชัดเจนและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติจริงของอุตสาหกรรม ซึ่ง ก.ล.ต. ได้นำข้อเสนอแนะดังกล่าวมาปรับปรุงร่างประกาศให้เหมาะสมก่อนประกาศใช้ 

ก.ล.ต. จึงได้ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง* จำนวน 4 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

(1) กำหนดวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน (sustainability objective) โดยบริษัทจัดการกองทุนรวม (บลจ.) ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนของกองทุนรวม SRI และเปิดเผยตราสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ได้แก่ SRI Focus SRI Improver SRI Promote SRI Impact และ SRI Mixed Goals  เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่ต้องการสนับสนุน

(2) ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลตลอดกระบวนการลงทุน โดย บลจ. ต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกหลักทรัพย์ การประเมินผล และการติดตามการลงทุน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารจัดการกองทุนรวม SRI

(3) การรายงานภายหลังการลงทุน (post-investment reporting) โดย บลจ. ต้องจัดทำรายงานผลจากการบริหารจัดการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามและตรวจสอบผลจากการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

(4) การจัดทำ Sustainability corner โดยเพิ่มส่วนสรุปข้อมูลด้านความยั่งยืนในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (fund factsheet) เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของกองทุนได้ง่ายขึ้น

(5) ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ผู้ตรวจสอบผลกระทบเชิงบวก (impact verifier) โดยปรับปรุงข้อกำหนดสำหรับกองทุนรวม SRI ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวก (SRI Impact) ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยยังคงความสอดคล้องกับแนวทางกำกับดูแลในระดับสากล

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้กำหนดแนวทางการเปิดเผยข้อมูลสำหรับกองทุนรวม SRI ที่เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Funds) และกองทุนรวมฟีดเดอร์ (Feeder Fund) เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติและรักษามาตรฐานความโปร่งใสในทุกประเภทของกองทุนรวม SRI ด้วย

สำหรับกองทุนรวม SRI ที่จดทะเบียนแล้ว บลจ. ต้องปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ ภายใน 9 เดือน นับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ส่วนกองทุนรวมอื่นที่มีชื่อหรือนโยบายการลงทุนเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ให้ บลจ. ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ

ทั้งนี้ ประกาศที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 ฉบับ ได้เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

หมายเหตุ : 

* กองทุนรวม SRI ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: Thai ESG) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund: Thai ESGX)

**ประกาศที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 ฉบับ ดังนี้ 

1) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 42 /2568  เรื่อง  หลักเกณฑ์  เงื่อนไข  และวิธีการจัดการเพิ่มเติม  สำหรับกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน  กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน  และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ https://publish.sec.or.th/nrs/10969p_r.pdf รวมทั้งภาคผนวก 1 https://publish.sec.or.th/nrs/10968p_r.pdf 

2) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 43 /2568  เรื่อง  หลักเกณฑ์  เงื่อนไข  และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป  กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย  และกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (ฉบับที่ 11) https://publish.sec.or.th/nrs/10971p_r.pdf รวมทั้งภาคผนวก 3 https://publish.sec.or.th/nrs/10970p_r.pdf

3) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 44 /2568  เรื่อง  หนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป  กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย  และกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (ฉบับที่ 9) https://publish.sec.or.th/nrs/10974p_r.pdf 

รวมทั้งภาคผนวก 1 https://publish.sec.or.th/nrs/10992p_r.pdf และคำอธิบายเพิ่มเติมแนบท้ายแบบ123-1 https://publish.sec.or.th/nrs/10973p_r.pdf 

4) ประกาศแนวปฏิบัติ ที่ นป. 9 /2568  เรื่อง  การยกเลิกประกาศแนวปฏิบัติ  เรื่อง  แนวปฏิบัติในการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน https://publish.sec.or.th/nrs/10976p_r.pdf 

ก.ล.ต. ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมจัดตั้งกองทุนรวม SRI อีก 1 ปี 

ก.ล.ต. ออกประกาศเพื่อขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม SRI* ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2569 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2568 โดยกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อให้มาตรการนี้มุ่งส่งเสริมให้ บลจ. จัดตั้งกองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินไทยที่เน้นสร้างผลกระทบเชิงบวก (positive impact) ซึ่งวัดผลได้ และ/หรือ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน (transition) สู่ความยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยยกระดับมาตรฐานด้านความยั่งยืน (ESG) อย่างเป็นรูปธรรม

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สนับสนุนภาคธุรกิจให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างยั่นยืนผ่านมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม SRI มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 โดยที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการด้าน ESG ที่วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การยกระดับธรรมาภิบาล และการสร้างมูลค่ากิจการ (value up) ในระยะยาว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากบทบาทการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)  

การขยายมาตรการครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ บลจ. จัดตั้งและบริหารกองทุนรวมที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนของไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นกลไกผลักดันให้ธุรกิจไทยปรับตัวและให้ความสำคัญต่อปัจจัย ESG ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0)

เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ก.ล.ต. จึงออกประกาศ** เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมให้แก่ บลจ. สำหรับกองทุนรวม SRI (ซึ่งรวมถึง Thai ESG) บางประเภทที่เข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

(1) ลงทุนเฉพาะหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินไทย

(2) เป็นประเภท SRI Improver หรือ SRI Impact อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือประเภท SRI Mixed Goals ที่ผสมระหว่าง SRI Improver และ SRI Impact เท่านั้น

ทั้งนี้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมคำขอแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อเป็นกองทุนรวม SRI โดยประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2569

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “การขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม SRI ออกไปอีก 1 ปี สะท้อนความมุ่งมั่นของ ก.ล.ต. ในการผลักดันการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment) โดยเชื่อมั่นว่า บลจ. ในฐานะผู้ลงทุนสถาบัน เป็นกลไกสำคัญที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้ภาคธุรกิจไทยเร่งปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมกับเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มมูลค่ากิจการอย่างยั่งยืน ในขณะที่ผู้ลงทุนก็สามารถติดตามการบริหารจัดการลงทุนของ บลจ. ผ่านการเปิดเผยข้อมูล ESG ตามมาตรฐาน SRI ที่ ก.ล.ต. ได้วางกลไกไว้ /การขับเคลื่อนระบบนิเวศไปพร้อมกันนี้จะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการลงทุนอย่างยั่งยืนของประเทศในวงกว้างต่อไป” 

หมายเหตุ : 

*กองทุนรวม SRI ประกอบด้วย กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ซึ่งหลักเกณฑ์กำหนดให้เปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ของกองทุนรวม และต้องระบุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน (sustainability objectives) ให้ชัดเจน โดยจำแนกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

(1) SRI Focus คือ กองทุนรวมที่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) หรือสังคม (S) หรือ ESG

(2) SRI Improver คือ กองทุนรวมที่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีศักยภาพและมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนในการพัฒนาหรือเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้าน E หรือ S หรือ ESG โดยมีการกำหนดเป้าหมาย ระยะเวลา และกลไกดำเนินการที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีหลักฐานความคืบหน้าที่ บลจ. สามารถติดตามได้

(3) SRI Promote คือ กองทุนรวมที่ส่งเสริมลักษณะด้าน E หรือ S หรือ ESG โดยมุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินซึ่งส่งเสริมลักษณะดังกล่าว แม้กองทุนรวมจะไม่มีพันธะหรือเป้าหมายที่ชัดเจนในการบรรลุผลด้านความยั่งยืนอย่างเฉพาะเจาะจง แต่มีการนำปัจจัยด้าน ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะด้าน E หรือ S หรือ ESG ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม

(4) SRI Impact คือ กองทุนรวมที่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่สร้างผลกระทบเชิงบวกด้าน E หรือ S หรือ ESG ที่สามารถวัดผลได้

(5) SRI Mixed Goals คือ กองทุนรวมที่ลงทุนโดยผสมผสาน sustainability objectives ตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไป โดย บลจ. ต้องกำหนดนโยบายและเปิดเผยหลักเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละ sustainability objectives อย่างโปร่งใส และเปิดเผยข้อมูลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับกองทุนรวม SRI แต่ละประเภทที่นำมาผสมผสานกันอย่างครบถ้วน

**ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สม. 45/2568 เรื่อง การกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมบางประเภท https://publish.sec.or.th/nrs/10975s.pdf 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ อนุทิน ขึ้นปราสาทตาควาย-เนิน 350 ให้กำลังใจทหารกล้า

นายกฯ อนุทิน ขึ้นปราสาทตาควาย-เนิน 350 ให้กำลังใจทหารกล้า ถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่

เอ็มดี ธอส. ใหม่ไฟแรง ปล่อยสินเชื่อบ้านปี 2568 ทะลุเป้า 2.43 แสนล้าน

เอ็มดี ธอส. ใหม่ไฟแรง ปล่อยสินเชื่อบ้านปี 2568 ทะลุเป้า 2.43 แสนล้านบาท  อัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

นายกฯ อนุทิน ถึงบุรีรัมย์ ควงเนวิน บวงสรวงรัชกาลที่ 1

นายกฯ อนุทิน ถึงบุรีรัมย์ ควงเนวิน บวงสรวงรัชกาลที่ 1 ปิดทองฐานฉัตรแก้ว ต้นที่ 37 ตรงเลขปาร์ตี้ลิสต์ ภท. เสริมสิริมงคล ส่งท้ายปี

ศูนย์ราชการ เดินหน้าสู่เมืองคาร์บอนต่ำ

ศูนย์ราชการ ใช้พลังงานสะอาด — ไฮโดรเจนขับเคลื่อนศูนย์ราชการ สู่เมืองคาร์บอนต่ำของอนาคต