นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน)หรือ BE8 เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ จำนวน 61.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น159.07% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.79 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 586.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 463.12 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 376.89%
นายอภิเษก กล่าวต่อว่า การที่รายได้ของกลุ่ม BE8 ในไตรมาส1/2566 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด เป็นผลมาจากการรวมรายได้ของบริษัทย่อยที่บริษัทได้เข้าลงทุน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 และธันวาคม 2565 และในไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส จำกัด บริษัทเบย์คอมพิวติ้ง จำกัด บริษัท วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ จำกัด และ บริษัท รีโคนิกซ์ จำกัด ขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของความต้องการของลูกค้าทั้งในส่วนการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี และงานด้านการขายและการให้เช่าใช้สิทธิการใช้งาน
ทั้งนี้หากแยกรายได้ตามประเภทการให้บริการในไตรมาส1/2566พบว่า ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี มีรายได้ 282.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น239.55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 83.17 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยี บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้เช่าใช้สิทธิการใช้งาน 162.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 544.08% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 25.16 ล้านบาท และธุรกิจการดูแลระบบเทคโนโลยีและจัดหาบุคลากรเทคโนโลยีมีรายได้ 141.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 872.78 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 14.55 ล้านบาท
“ผลประกอบการไตรมาส1/2566 BE8 ยังทำนิวไฮต่อเนื่อง ตัวเลขการเติบโตของกำไรและรายได้ สะท้อนความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน หลังจากที่เราควบรวมกิจการกับพันธมิตร ขณะที่ Organic Growth ของกลุ่ม BE8 ยังเติบโตได้ดี เนื่องจากดีมานด์ของลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนยังสูง ในปีนี้จะเห็นภาพกลุ่ม BE8 สามารถสร้างDigital Transformation Ecosystem ที่สมบูรณ์ มีศักยภาพครบทุกด้าน” นายอภิเษก กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 นายอภิเษก กล่าวว่า ผลประกอบการมีโอกาสทำนิวไฮต่อเนื่อง จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 810.97 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่ารายได้รวม จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 2,500 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่บริษัทได้ตั้งไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เนื่องจาก Organic Growth ของทุกบริษัทในกลุ่ม BE8 ยังเติบโตได้ดีทุกกลุ่มการให้บริการทั้ง CRM Data Integration และ Cyber Security เนื่องจากดีมานด์ขององค์กรธุรกิจยังเติบโตสูง และข้อบังคับทางกฎหมาย ส่งผลให้ทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับ Digital Transformation โดยในปีนี้ธุรกิจที่เป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture) และ การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ จะมีการเติบโตที่โดดเด่น
“ภาพรวมของกลุ่ม BE8 ในปีนี้ธุรกิจที่เป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture)และการขยายตลาดต่างประเทศ ถือเป็นไฮไลท์ของเรา ขณะที่ Organic Growth ของทุกบริษัทในกลุ่มยังเติบโตได้ดี ทำให้เป้าหมายรายได้ปีนี้ขยับขึ้นเป็น 2.5 พันล้านบาท โดยเฉพาะเบย์คอม ที่ให้บริการด้าน Cyber Security ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้เติบโตได้ดี และคาดว่าจะเติบโตขึ้นไปอีกในปลายปีตาม seasonal ของธุรกิจ”นายอภิเษก กล่าว
