บมจ.ยูเอซี โกลบอล ลุยลงทุนโครงการ RDF3 ในอินโดนีเซีย

Date:

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล หรือ “UAC” ลุยลงทุนโครงการ RDF3 ในอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัท บริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ร่วมลงทุนใน PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อลงทุนใน PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3  

ล่าสุดได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่ม KBANK จำนวน 60,000,000,000 IDR เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต RDF3 ของ CYC ซึ่งโรงงานดังกล่าวสามารถช่วยกำจัดขยะให้เป็นพลังงานทดแทนถ่านหิน สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2567

ปัจจุบัน เชื้อเพลิงขยะ (RDF) ถือเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่นำขยะจากชุมชน (Municipal Solid Waste) มาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าจากของเหลือทิ้ง ดังนั้นมองว่าการลงทุนโครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่เมือง Sukabumi ของ บมจ.ยูเอซี โกลบอล ลุยลงทุนโครงการ RDF3 ในอินโดนีเซีย จะเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมทั้งคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ซึ่งเป็นหลักการในการวางรากฐานความยั่งยืนและเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทได้ในระยะยาว โดยโรงงานผลิต RDF3 เป็นธุรกิจใหม่ที่ UAC เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ PT Semen Jawa บริษัทในเครือ SCG

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

คปภ.เดินหน้าใช้ ยกระดับธุรกิจประกันภัย

คปภ.เดินหน้าเต็มสูบ ดิจิทัล AI ยกระดับธุรกิจประกันภัย “สร้างโอกาสใหม่แห่งการประกันภัยด้วยเทคโนโลยี เพื่อคุ้มครองชีวิตและสุขภาพอย่างยั่งยืน”

บล.เกียรตินาคินภัทร ชี้นโยบายทรัมป์สะเทือนเศรษฐกิจโลก

บล.เกียรตินาคินภัทร ชี้นโยบายทรัมป์สะเทือนเศรษฐกิจโลก แนะตราสารหนี้โดดเด่นสร้างรายได้ในยุคดอกเบี้ยขาลง

5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม

“สมชัย ศรีสุทธิยากร” ชี้ 5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม

หนี้ครัวเรือนแตะ 14 ล้านล้านบาท

หนี้ครัวเรือน 30 ล้านคน แตะ 14 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย 1.2 ล้านล้านบาท เป็นห่วงหนี้เสียสินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็กหรือ​ SME เติบโต​ 20%