ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดเกณฑ์ให้กองทุนรวม Thai ESG ต้องมีการลงทุนในกิจการที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการได้รับ SET ESG ratings ที่ดี (eligible assets)* ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย และในกรณีที่ บลจ. เห็นว่าบริษัทใดที่มีธรรมาภิบาลไม่เหมาะสม แม้บริษัทนั้นได้รับ SET ESG ratings ตามเกณฑ์ที่กำหนด บลจ. มีหน้าที่ใช้ fiduciary duty ในการพิจารณาไม่นับรวมการลงทุนในบริษัทดังกล่าว เป็น eligible assets ที่ต้องลงทุนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยการลงทุนส่วนที่เหลือยังคงต้องเป็นไปตามอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนดด้วย
ทั้งนี้ กรณีที่บริษัทที่ลงทุนขาดคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามที่เกณฑ์กองทุน Thai ESG กำหนด กองทุนยังสามารถลงทุนได้ โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 20 ของ NAV โดยถือเป็น non-eligible assets
จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 พบว่า กองทุนรวม Thai ESG มีมูลค่า NAV ทั้งหมด 6,844 ล้านบาท มีการลงทุนในหุ้นบริษัท EA รวม 24 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.35 ของ NAV ทั้งหมด ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า กองทุนรวม Thai ESG ทุกกองทุนสามารถลงทุนได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด แม้จะไม่นับการลงทุนในหุ้นบริษัท EA เป็น eligible assets
สำหรับกองทุนรวมอื่น ๆ มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท EA คิดเป็นร้อยละ 0.06 ของ NAV รวมทั้งอุตสาหกรรม โดย บลจ. มีหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาลงทุนตามความเหมาะสมด้วย
นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน ได้มีมติถอดบริษัท EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ SET ESG Ratings ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 นั้น จะไม่มีผลต่อการลงทุนของกองทุน Thai ESG ให้เป็นไปตามหลักกณฑ์ที่กำหนด และจากการติดตามของ ก.ล.ต. พบว่า กองทุนรวม Thai ESG และกองทุนรวมอื่น ๆ มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท EA เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม โดย บลจ. มีหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาลงทุนตามความเหมาะสมด้วย”