นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 มีรายได้รวม 353.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 327.92 ล้านบาท จำนวน 25.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.89% และมีกำไรสุทธิ 21.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.24 ล้านบาท จำนวน 11.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 109.96%
ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/67 ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถทำไรกำไรนิวไฮ 6 ไตรมาสติดต่อกัน โดยบริษัทมีรายได้รวม 176.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 161.01 ล้านบาท จำนวน 15.57 ล้านบาท หรือ 9.76% และมีกำไรสุทธิ 11.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.21 ล้านบาท จำนวน 3.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53.54%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าและจำนวนรถที่ให้บริการเพิ่มมากขึ้น บริษัทยังคงบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างระมัดระวัง อีกทั้งรายได้จากการให้บริการ VVS (VIP Vehicle Service) ก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6
สำหรับแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 67 บริษัทดำเนินการขยายฐานลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่ พร้อมการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่เป็นบวก (Positive Cash Flow) ให้มีสภาพคล่องที่เหมาะสมและเพียงพอในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 บริษัทมีลูกค้าใหม่ 4 ราย โดยอยู่ในระหว่างจัดเตรียมรถโดยสารใหม่ จำนวน 22 คัน ประกอบด้วย รถบัส 10 คัน รถบัสไฟฟ้า 2 คัน รถมินิบัสไฟฟ้า 2 คัน รถตู้ 8 คัน และรถบัสโดยสารที่ใช้งานแล้วจำนวน 10 คัน รวมทั้งหมด 32 คัน เพื่อให้บริการลูกค้าดังล่าว โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป
จากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ารวมทั้งสิ้น 68 ราย โดยมีรถโดยสารที่ให้บริการรวมทั้งสื้น 687 คัน ประกอบด้วย รถบัสโดยสาร 267 คัน รถมินิบัสโดยสาร 51 คัน รถตู้/รถตู้วีไอพีโดยสาร 359 คัน รถไฟฟ้าโดยสาร 8 คัน และรถกระบะให้บริการ 2 คัน
“ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายราย เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีศักยภาพมากขึ้น และยังคงเป้าหมายรายได้ปี 67 เติบโต 10% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 20% รวมถึงอัตรากำไรสุทธิประมาณ 8-10% ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถรักษาผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้”นายปิยะ กล่าว
