นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือนแรกของ 2567 สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน บริษัทมีรายได้รวม 621.82 ล้านบาท ลดลง 5.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนที่มีรายได้ 659.86 ล้านบาท บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้ จำนวน 9.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.01 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 4,190 ล้านบาท
นายสมบุญกล่าวว่าบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า จำนวน 100.80 ล้านบาทลดลง 34.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 154.19 ล้านบาท เนื่องจากในงวด 6 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและส่งมอบโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากระบบ Solar Cell ให้กับลูกค้า
ส่วนรายได้จากการให้บริการติดตั้งวางระบบและบำรุงรักษา มีจำนวน 221.16 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47.11 ล้านบาท หรือ 27.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 174.05 ล้านบาท โดย รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากงานบำรุงรักษาโครงข่ายที่ได้ส่งมอบและเริ่มให้บริการกับลูกค้าแล้ว รวมถึงรายได้จากสัญญาให้บริการพลังงานไฟฟ้าผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PPA)
รายได้จากการให้บริการโครงข่ายมีจำนวน 299.86 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 331.62 ล้านบาท เนื่องจากงวด 6 เดือน ปี 2566 มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อบริการระยะสั้น เพื่อใช้ทดแทนโครงข่ายใต้ทะเลของลูกค้าที่ชำรุดเสียหาย
“แม้ว่าโดยภาพรวมบริษัทจะมีรายได้ที่ลดลง แต่ยอดรวมของกำไรขั้นต้นกลับสูงขึ้นถึง 17.1% หรือ 17.90 ล้านบาท จาก 104.41 ล้านบาท เป็น 122.31 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากรายได้งานบริการติดตั้งวางระบบและบำรุงรักษามีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 3.7% เป็น 25.2% ตามลักษณะของกิจกรรม”นายสมบุญกล่าว
นายสมบุญกล่าวอีกว่า ในช่วง6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน 468.17 ล้านบาท มีรายการหลักจากเงินสดที่รับล่วงหน้าจากลูกค้าตามสัญญาระยะยาว โดยเงินสดที่ได้รับถูกจัดสรรไปเพื่อชำระคืนหนี้ธนาคารและการลงทุน ในสัดส่วนใกล้เคียงกันส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมีเงินสดในมือ 233.99 ล้านบาท
นายสมบุญยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทมีเป้าหมายสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยบริษัทได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20% ภายในปี 2035 และบรรลุการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2040 และบริษัทยังเป็นหนึ่งใน 20 บริษัทที่ได้คัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Set Carbon Sandbox ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์