ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า “ภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2567 EGCO Group ยังคงสามารถบริหารจัดการ Portfolio โรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายมากขึ้น รวมทั้งสามารถบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ สำหรับโครงการ Yunlin โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน ได้ติดตั้งเสากังหันลม (Monopiles) ครบ 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่งานก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี โดยปัจจุบันได้ติดตั้งกังหันลม (Wind Turbine Generators – WTGs) เสร็จแล้ว 66 ต้น ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 47 ต้น คิดเป็นกำลังผลิตติดตั้งรวม 376 เมกะวัตต์”
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 EGCO Group มีรายได้รวม 11,511 ล้านบาท ในขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,819 ล้านบาท โดยปัจจัยบวกมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในต่างประเทศ ได้แก่ Yunlin ในไต้หวัน และ Nam Theun 2 ใน สปป.ลาว ประกอบกับ APEX ในสหรัฐอเมริกา มีการรับรู้รายได้จากการขายหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Mulligan และพลังงานลม Great Pathfinder ในสัดส่วน 75% โดยในไตรมาสนี้ EGCO Group มีกำไรสุทธิ 1,393 ล้านบาท
ในขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 EGCO Group มีรายได้รวม 22,871 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 3,410 ล้านบาท โดยปัจจัยบวกมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศตามที่กล่าวข้างต้น โดยครึ่งปีแรกของปีนี้ EGCO Group มีกำไรสุทธิ 3,055 ล้านบาท
“การลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ EGCO Group ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตภายใต้กลยุทธ์ “4S” ที่มุ่งเน้นลงทุนในรูปแบบ M&A ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รวมถึงธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องที่เป็นสินทรัพย์คุณภาพสูง มีผลตอบแทนดี และสามารถรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว บนพื้นฐานกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งกว่า 34,000 ล้านบาท และนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกมิติ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายมากขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ EGCO Group มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่สำคัญของปีนี้ นั่นคือ การก่อสร้าง Yunlin ให้เสร็จสมบูรณ์ครบทั้งหมด 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ และการเจรจาสัญญาใหม่ของโรงไฟฟ้า Quezon ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดสัญญา รวมทั้งมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ กำลังผลิตประมาณ 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยาย ที่ภาครัฐจะเปิดเพิ่มเติมในรอบที่ 2” ดร.จิราพร กล่าวสรุป
