บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยทั้งโครงข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีฐานลูกค้ารวมกว่า 50 ล้านราย เตรียมเสนอขาย ‘หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน’ เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย อายุ 4 ปี และ 7 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป คาดว่าเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8 และ 11 – 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 มั่นใจเป็นการสร้างโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่มีความมั่นคงเติบโตและสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ชูจัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ที่ระดับ “AAA(tha)” (เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจ และสถานะทางการเงินที่มีความมั่นคง พร้อมแต่งตั้ง 7 สถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.กรุงไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.ยูโอบี และ บล.เกียรตินาคินภัทร
นายมนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS กล่าวว่า “การออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและช่วยสร้างการเติบโตให้กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS ภายใต้วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทยบนเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ในโลกดิจิทัล โดยเฉพาะการมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งโครงข่าย 5G ที่วันนี้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการแล้วกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เข้าถึงกว่า 13.3 ล้านครัวเรือน ทั่วประเทศ และนวัตกรรมแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการขยายโครงข่าย 5G เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ประชาชนหรือกลุ่มครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
โดยหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) จำนวน 2 รุ่น อายุ 4 ปี และ 7 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้ลงทุน กำหนดการชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ทั้งนี้รายละเอียดอัตราดอกเบี้ยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง บริษัทมั่นใจว่าหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ”
สำหรับการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 79,665 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของรายได้การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของการใช้ข้อมูลและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ประกอบกับธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าร้อยละ 159 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการรับรู้รายได้ TTTBB และการเติบโตไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ร่วมกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ ARPU จากกลยุทธ์ส่งเสริมการขายพ่วงบริการคอนเทนต์ สำหรับรายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ เติบโตขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้ TTTBB และการเติบโตขึ้นของความต้องการบริการเชื่อมต่อสื่อสารดิจิทัลและคลาวด์ บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เติบโตร้อยละ 21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB และการเติบโตของธุรกิจปกติโดยกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 17,028 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF
นายมนตรี อธิบายต่อไปอีกถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS ว่า “นอกเหนือจากความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอัจฉริยะที่ทำให้เราคงความเป็นผู้นำมาโดยตลอด AIS ยังมีเป้าหมายใหญ่ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนและภาคธุรกิจเติบโตได้ใน Digital Economy รวมถึงในมิติของการสร้างสังคมดิจิทัล ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยให้มีทักษะและเป็นพลเมืองดิจิทัล และมิติสุดท้ายคือ ด้านการยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่วันนี้เรามุ่งลดผลกระทบผ่านการบริหารจัดการ กระบวนการดำเนินธุรกิจและห่วงโซ่อุปทาน ด้วยนวัตกรรม โซลูชั่น รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงลดและรีไซเคิลของเสียจากการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมให้คนไทยร่วมกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ทั้งหมดคือเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่เดินหน้า สร้างการเติบโตร่วมกันของคนและสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล”
โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินว่า AIS มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการประมาณร้อยละ 48 และเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันด้านราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะสนับสนุนรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ และการเติบโตของรายได้ของ AIS
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ คาดว่าเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8 และ 11 – 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของ AIS สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://investor-th.ais.co.th/news.html/id/2510115/group/sustainable_finance หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่
• ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT เฉพาะผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น)
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร.1572
• ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-285-1555
• บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)