นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนักลงทุนเริ่มมองหากองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่ง MFC มีกองทุนให้เลือกหลากหลายนโยบายการลงทุนและตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งกองทุนรวม เพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ซึ่งเป็นกองทุนน้องใหม่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2567 นี้ แนะนำ 5 กองทุน นโยบายการลงทุนครอบคลุมทุกระดับความเสี่ยงตั้งแต่ต่ำ ปานกลางและสูง สามารถทยอยเข้าลงทุน เพื่อเตรียมวางแผนภาษีโดยไม่ต้องรอซื้อปลายปี
“MFC ยังคงแนะนำให้ทยอยซื้อกองทุนลดภาษีไม่ต้องรอซื้อวินาทีสุดท้าย เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและ จัดพอร์ตกระจายลงทุนได้เลย โดยเฉพาะในปีนี้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 และมีโอกาสที่จะเป็น Red Sweep คือ พรรคริพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาทั้งฝั่ง ส.ส. และ ส.ว. ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมไปถึงหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กมีโอกาสปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนการ Mergers and Acquisitions และลดอัตราภาษีนิติบุคคล ของทรัมป์” นายธนโชติ กล่าว
สำหรับตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/2567 ทาง MFC มองแนวโน้มดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่นำโดยจีนจะผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียซึ่งไทยน่าจะได้อานิสงส์ด้วยประกอบกับตลาดหุ้นไทยจะได้แรงหนุน จาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ทยอยเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ค.-ก.ย. มียอดซื้อสุทธิ 21,461.57 ล้านบาท หากนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–30 ก.ย. 67 มียอดเงินไหลออกสุทธิลดลงเหลือ 95,569.93 ล้านบาท ปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนตลาด ยังมาจากตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค. ของไทยที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดีและคาดว่าจะ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นช่วงวันหยุดในวันชาติจีนช่วงที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการ Ease of Traveling ของรัฐบาล ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สาย การบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้น
“ขณะที่ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ปัจจุบันค่า Forward P/E ของดัชนี SET Index ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า อยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี ทาง MFC จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จึงให้น้ำหนัก Overweight” นายธนโชติ กล่าว